จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร?
จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรมนี้คือการค้นหาว่าการวางแผนการจำหน่ายที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลช่วยปรับปรุงคุณภาพการดูแลสุขภาพโดยลดการออกจากโรงพยาบาลล่าช้า ลดการส่งกลับเข้าโรงพยาบาล และปรับปรุงสถานะสุขภาพของผู้ป่วย นอกจากนี้เรายังต้องการทราบว่าวิธีการมีค่าใช้จ่ายเท่าไร เราทำการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อตอบข้อสงสัย นี่เป็นการปรับปรุงครั้งที่ 5 ของการทบทวนวรรณกรรมจากของเดิม
ข้อความสำคัญ
เมื่อออกจากโรงพยาบาลด้วยแผนการจำหน่ายแบบส่วนบุคคล อาจลดระยะเวลาการพักรักษาลงเล็กน้อย พวกเขามีโอกาสน้อยลงเล็กน้อยที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลังจากออกจากโรงพยาบาล มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับผลต่อสุขภาพของผู้ป่วย ความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการดูแลที่ได้รับ ค่าใช้จ่ายในการวางแผนจำหน่ายไม่แน่นอน
สิ่งที่ศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้
การวางแผนการจำหน่ายออกคือการพัฒนาแผนส่วนบุคคลที่ประเมินความต้องการด้านสุขภาพและการดูแลทางสังคมของผู้ป่วยก่อนออกจากโรงพยาบาล เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในเวลาที่เหมาะสมระหว่างโรงพยาบาลและบ้านหรือสถานที่อื่นๆ และปรับปรุงการบริการหลังการออกจากโรงพยาบาล
ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร
เราพบ 33 การทดลอง ที่เปรียบเทียบแผนการจำหน่ายส่วนบุคคลกับการดูแลการจำหน่ายมาตรฐาน การทบทวนวรรณกรรมนี้บ่งชี้ว่าแผนการจำหน่ายส่วนบุคคลอาจทำให้ระยะเวลาพักรักษาในโรงพยาบาลลดลงเล็กน้อย และอาจลดอัตราการกลับมารักษาอีกเล็กน้อยสำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการป่วย และอาจเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสถานะสุขภาพหรือค่าใช้จ่ายในการวางแผนการจำหน่ายต่อบริการสุขภาพ
ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นอย่างไร
ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรมค้นหาการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนเมษายน 2021
แผนการจำหน่ายที่มีโครงสร้างซึ่งปรับให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายอาจทำให้ระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยลดลงเล็กน้อย อาจเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วยเล็กน้อยต่อการรักษาพยาบาลที่ได้รับ ผลต่อสถานะสุขภาพของผู้ป่วยและการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์หรือต้นทุนต่อบริการสุขภาพนั้นไม่แน่นอน
การวางแผนการจำหน่ายออกเป็นลักษณะประจำของระบบสุขภาพในหลายประเทศที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการออกจากโรงพยาบาลล่าช้า และปรับปรุงการประสานงานของบริการหลังออกจากโรงพยาบาล และลดความเสี่ยงของการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นี่เป็นการปรับปรุงครั้งที่ 5 ของการทบทวนวรรณกรรมจากของเดิม
เพื่อประเมินประสิทธิผลของการวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยแต่ละรายที่ออกจากโรงพยาบาล
เราค้นหา CENTRAL, MEDLINE, Embase และ 2 ทะเบียนทดลอง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2021 เราค้นหาฐาน 2 ฐานข้อมูลอื่นจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2020 เรายังดำเนินการตรวจสอบเอกสารอ้างอิง ค้นหาการอ้างอิง และติดต่อกับผู้วิจัยเพื่อหาุการศึกษาเพิ่มเติม
การทดลองแบบสุ่มที่เปรียบเทียบแผนการจำหน่ายรายบุคคลกับการจำหน่ายตามปกติซึ่งไม่ได้ปรับให้เหมาะกับผู้เข้าร่วมเป็นรายบุคคล ผู้เข้าร่วมเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล
ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรม 2 คนทำการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินคุณภาพอย่างอิสระโดยใช้แบบคัดลอกข้อมูลที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า เราจัดกลุ่มการศึกษาโดยผู้สูงอายุที่มีอาการป่วย ผู้ที่ฟื้นตัวจากการผ่าตัด และการศึกษาที่คัดเลือกผู้เข้าร่วมที่มีภาวะแบบผสม เราคำนวณ risk ratio (RR) สำหรับผลลัพธ์แบบ dichotomous ค่าเฉลี่ยส่วนต่าง (MD) สำหรับข้อมูลต่อเนื่องโดยใช้ fixed-effect meta-analysis เมื่อการรวมข้อมูลผลเป็นไปไม่ได้เนื่องจากความแตกต่างในการรายงานผล เราสรุปผลที่รายงานสำหรับการทดลองแต่ละครั้งในรายงาน
เรารวม 33 การทดลอง (ผู้เข้าร่วม 12,242 คน) มีการทดลองใหม่ 4 ฉบับ รวมอยู่ในการปรับปรุงนี้ การทดลองส่วนใหญ่ (N = 30) คัดเลือกผู้เข้าร่วมที่มีการวินิจฉัยทางการแพทย์ ช่วงอายุเฉลี่ย 60 ถึง 84 ปี; 4 การทดลองเหล่านี้ยังคัดเลือกผู้เข้าร่วมที่อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัด ผู้เข้าร่วมที่ได้รับการจัดสรรเพื่อวางแผนการจำหน่ายและอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการป่วย มีระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงเล็กน้อย (MD − 0.73, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) − 1.33 ถึง - 0.12; 11 การทดลอง ผู้เข้าร่วม 2113 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และมีการลดลงในการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงติดตามผลเฉลี่ยสามเดือน (RR 0.89, 95% CI 0.81 ถึง 0.97; 17 การทดลอง ผู้เข้าร่วม 5126 คน หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) สถานะสุขภาพของผู้เข้าร่วมมีความแตกต่างกันเล็กน้อยหรือไม่มีเลย (การเสียชีวิตเมื่อติดตามผล 3 ถึง 9 เดือน: RR 1.05, 95% CI 0.85 ถึง 1.29; 8 การทดลอง ผู้เข้าร่วม 2721 คน; ความเชื่อมั่นปานกลาง) สถานะการทำงานและสุขภาพจิตที่วัดโดยมาตรการต่างๆ 12 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 2927 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าความพึงพอใจของผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้น (7 การทดลอง) ผู้ดูแลผู้ป่วย (1 การทดลอง) หรือบุคลากรทางการแพทย์ (2 การทดลอง) (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) ค่าใช้จ่ายของแผนการจำหน่ายแบบมีโครงสร้างเมื่อเปรียบเทียบกับการจำหน่ายตามปกตินั้นไม่แน่นอน (7 การทดลอง คัดเลือกผู้เข้าร่วม 7873 คนที่มีอาการป่วย หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก)
แปลโดย ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 25 กุมภาพันธ์ 2022