การตัดหรือจี้เยื่อบุโพรงมดลูกมีประสิทธิผล ปลอดภัยกว่า หรือเป็นที่ยอมรับได้มากกว่าการตัดมดลูกด้วยช่องทางต่างๆหรือไม่

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

การทบทวนนี้เปรียบเทียบประสิทธิผล ความปลอดภัย และการยอมรับของการตัดหรือจี้เยื่อบุโพรงมดลูก (EA / ER) เทียบกับวิธีการตัดมดลูกด้วยช่องทางต่างๆ เพื่อรักษาภาวะเลือดประจำเดือนออกมาก (HMB)

ความเป็นมา

การรักษาด้วยการผ่าตัดสำหรับ HMB ได้แก่ : การตัดเยื่อบุโพรงมดลูกหรือการจี้ (การกำจัดหรือการทำลายเยื่อบุโพรงมดลูก (เยื่อบุด้านใน) ของมดลูก (womb)) และการตัดมดลูก (การผ่าตัดเอามดลูกออก) การตัดมดลูกสามารถทำได้โดยช่องทางต่างๆ: โดยการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (open) โดย minimally invasive ซึ่งอาจเป็นทางช่องคลอดหรือโดยการส่องกล้อง (การผ่าตัดแบบ 'รูเล็ก' ที่เกี่ยวข้องกับแผลผ่าตัดขนาดเล็กมากที่หน้าท้อง) การตัดมดลูกมีประสิทธิผลในการหยุด HMB อย่างถาวร แต่ทำให้การเจริญพันธ์ุหมดไป และมีความเสี่ยงของการผ่าตัดใหญ่ รวมทั้งการติดเชื้อและการสูญเสียเลือด การตัดเยื่อบุโพรงมดลูก / การจี้ จะดำเนินการทางช่องคลอดและปากมดลูก (ทางเข้าสู่มดลูก)

วันที่สืบค้น

ในเดือนกรกฎาคม 2020 เราสืบค้นการศึกษาที่เปรียบเทียบการตัดเยื่อบุโพรงมดลูก / การจี้ กับการตัดมดลูกเพื่อรักษา HMB เรารวม 10 การศึกษาเกี่ยวกับสตรี 1966 คน

ลักษณะของการศึกษา

เรารวมเฉพาะการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs; การศึกษาทางคลินิกโดยสุ่มให้คนเข้าร่วมกลุ่มการรักษาหนึ่งในสองกลุ่มขึ้นไป) เปรียบเทียบการจี้หรือตัดเยื่อบุโพรงมดลูกและการตัดมดลูกเพื่อรักษา HMB การศึกษาไม่ได้รวมสตรีที่ผ่านพ้นวัยหมดประจำเดือน หรือมีมะเร็ง (หรือ precancer) ของมดลูก

ผลลัพธ์และข้อสรุปที่สำคัญ

สตรีที่ได้ EA / ER อาจมีโอกาสน้อยกว่าที่จะรู้สึกว่า HMB ดีขึ้นและมีแนวโน้มที่จะต้องได้รับการผ่าตัดเนื่องจากความล้มเหลวในการรักษาเมื่อเทียบกับสตรีที่ตัดมดลูกแบบเปิด พวกเขาอาจมีคุณภาพชีวิตและอัตราความพึงพอใจที่ใกล้เคียงกันและอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ภาวะแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อย แต่สำคัญ บางอย่าง เช่น การติดเชื้อและการตกเลือด มักเกิดขึ้นในระหว่างการตัดมดลูกแบบเปิดมากกว่า EA / ER

สตรีที่มี EA / ER อาจมีอัตรารู้สึกว่า HMB ดีขึ้นที่ใกล้เคียงกัน แต่อาจมีโอกาสน้อยที่จะมีการสูญเสียเลือดลดลงอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อเทียบกับสตรีที่มีการตัดมดลูกแบบ minimally invasive กลุ่ม EA / ER อาจมีคุณภาพชีวิตและอัตราความพึงพอใจที่ต่ำกว่า อัตราของผลข้างเคียงที่รุนแรงอาจใกล้เคียงกัน แต่สตรีที่ได้ EA / ER อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการผ่าตัดจากความล้มเหลวในการรักษา เมื่อเทียบกับการตัดมดลูกแบบ minimally invasive เวลาที่สตรีใช้ในการกลับไปทำกิจกรรมตามปกติสั้นกว่าด้วย EA / ER เทียบกับการตัดมดลูกแบบ minimally invasive

สตรีที่ได้รับี EA / ER อาจมีโอกาสน้อยกว่าที่จะรู้สึกว่า HMB ดีขึ้น และสุขภาพโดยทั่วไปดีขึ้น เมื่อเทียบกับสตรีที่มีการตัดมดลูกที่ไม่ระบุรายละเอียดของช่องทาง (หรือตามดุลยพินิจของศัลยแพทย์) EA / ER อาจเพิ่มโอกาสในการผ่าตัดสำหรับความล้มเหลวในการรักษา แต่จะลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและมีเวลาสั้นกว่าในการกลับไปทำกิจกรรมตามปกติ หากเทียบกับการตัดมดลูกที่ไม่ระบุรายละเอียดของช่องทาง

การตรวจสอบอันตราย

การผ่าตัดทั้งสองแบบ ถือว่าโดยทั่วไปปลอดภัย มีอัตราภาวะแทรกซ้อนต่ำ ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนถึงความแตกต่างของจำนวนผลข้างเคียงที่รุนแรงระหว่างเทคนิคการผ่าตัดทั้งสองแบบ อย่างไรก็ตามการตัดมดลูกแบบเปิด และวิธีการผ่าตัดมดลูกที่ไม่ระบุช่องทาง มีความสัมพันธ์กับโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่นการติดเชื้อ และการตกเลือด ในขณะที่ผลเหล่านี้ไม่มีความแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบ EA / ER กับการผ่าตัดมดลูกแบบ minimally invasive

คุณภาพของหลักฐาน

หลักฐานที่รายงานในการทบทวนวรรณกรรมนี้มีคุณภาพต่ำมากถึงปานกลาง บ่งบอกว่าการวิจัยเพิ่มเติมอาจทำให้ผลเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลักฐานส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับปานกลาง แต่เราก็ไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในการศึกษาเพิ่มเติม หลักฐานที่มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความแตกต่างระหว่างกลุ่มต่างๆในการดูแลที่ให้ และในกรณีนี้การปกปิดเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากลักษณะของขั้นตอนการรักษา

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การตัด/การจี้เยื่อบุโพรงมดลูก (EA / ER) เป็นทางเลือกแทนการตัดมดลูก เพื่อการผ่าตัดรักษา HMB

ประสิทธิผลแตกต่างกันสำหรับ EA / ER เมื่อเทียบกับวิธีการตัดมดลูกแบบต่างๆ การรู้สึกว่า HMB ดีขึ้นด้วย EA / ER อาจต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการตัดมดลูกแบบเปิด และไม่ระบุช่องทาง แต่อาจใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับแบบ minimally invasive คุณภาพชีวิตด้วย EA / ER อาจคล้ายกับการผ่าตัดมดลูกแบบเปิดและไม่ระบุช่องทาง แต่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการตัดมดลูกแบบ minimally invasive การผ่าตัดเพิ่มเติมสำหรับความล้มเหลวในการรักษาอาจเป็นไปได้มากกว่าด้วย EA / ER เมื่อเทียบกับการผ่าตัดมดลูกรวมทุกช่องทาง

อัตราความพึงพอใจยังแตกต่างกันไป EA / ER อาจมีอัตราความพึงพอใจที่ใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับการผ่าตัดมดลูกแบบเปิดและแบบไม่ระบุช่องทาง แต่มีอัตราความพึงพอใจที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดมดลูกแบบ minimally invasive สัดส่วนที่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงดูเหมือนกันในทุกกลุ่ม แต่เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงได้รายงานความแตกต่างระหว่าง EA / ER และเส้นทางที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับเวลาในการกลับสู่กิจกรรมปกติได้ แต่ทิศทางของผลกระทบบ่งชี้ว่า EA / ER มีแนวโน้มที่จะสั้นกว่า

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การมีเลือดประจำเดือนมาก (HMB) เป็นเรื่องปกติในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีสุขภาพดี และอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิต การผ่าตัดมักเป็นการรักษาขั้นที่สองของ HMB การตัด / การจี้เยื่อบุโพรงมดลูก (EA / ER) เพื่อกำจัดหรือจี้เยื่อบุโพรงมดลูก มีการลุกล้ำน้อยกว่าการตัดมดลูก การตัดมดลูกเป็นวิธีการรักษาขั้นสุดท้ายและสามารถทำได้โดยวิธีเปิด (laparotomy) หรือแบบ minimally invasive (ทางช่องคลอดหรือการส่องกล้อง) แต่ละแนวทางมีข้อดีและความเสี่ยง

วัตถุประสงค์: 

เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผล การยอมรับ และความปลอดภัยของการตัด หรือการจี้เยื่อบุโพรงมดลูก กับการตัดมดลูกแบบต่างๆ (การผ่าตัดมดลูกแบบเปิด minimalyl invasive หรือไม่ระบุเส้นทาง) สำหรับการรักษา HMB

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้น the Cochrane Gynaecology and Fertility specialised register, CENTRAL, MEDLINE, Embase และ PsycINFO (กรกฎาคม 2020) และรายการอ้างอิง grey literature และ trial registers

เกณฑ์การคัดเลือก: 

Randomized controlled trials (RCTs) ซึ่งเปรียบเทียบเทคนิคการตัด / การจี้เยื่อบุโพรงมดลูก กับการตัดมดลูก (ด้วยเทคนิคใด ๆ ) สำหรับการรักษา HMB ในสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้กระบวนการระเบียบวิธีมาตรฐานที่ Cochrane กำหนดไว้

ผลการวิจัย: 

เรารวม RCTs 10 รายการ (ผู้เข้าร่วม 1966 คน) เปรียบเทียบ EA / ER กับการตัดมดลูก (เปิด (หน้าท้อง) minimally invasive (การส่องกล้องหรือทางช่องคลอด) หรือไม่ระบุเส้นทางการตัดมดลูก (หรือตามดุลยพินิจของศัลยแพทย์)) ผลการวิจัยได้รับการจัดว่าเป็นหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นปานกลาง ต่ำและต่ำมาก

การตัด / การจี้ เยื่อบุโพรงมดลูกกับการตัดมดลูกแบบเปิด

เราพบ 2 การทดลอง สตรีที่มี EA / ER มีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะรู้สึกว่า HMB ดีขึ้นเมื่อเทียบกับสตรีที่ตัดมดลูกแบบเปิด (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 0.90, 95% ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 0.84 ถึง 0.95; 2 การศึกษา, สตรี 247 คนหลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง ) และอาจมีความเสี่ยง 13% ที่จะต้องผ่าตัดเพิ่มเติมสำหรับความล้มเหลวในการรักษา (เทียบกับ 0 ในกลุ่มตัดมดลูกแบบเปิด 2 การศึกษา, สตรี 247 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) การรักษาทั้งสองอาจนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงกันใน 2 ปี (ค่าเฉลี่ยความแตกต่าง (MD) –5.30, 95% CI –11.90 ถึง 1.30; 1 การศึกษา, สตรี 155 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และอัตราความพึงพอใจในหนึ่งปี (RR 0.91, 95% CI 0.82 ถึง 1.00; 1 การศึกษา, สตรี 194 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) อาจไม่มีความแตกต่างในเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง (RR 1.29, 95% CI 0.32 ถึง 5.20; 2 การศึกษา, สตรี 247 คน; หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำ) EA / ER อาจช่วยลดเวลาในการกลับไปทำกิจกรรมตามปกติเมื่อเทียบกับการตัดมดลูกแบบเปิด (MD –21.00 วัน, 95% CI –24.78 ถึง –17.22; 1 การศึกษา, สตรี 197 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

การตัด/การจี้เยื่อบุโพรงมดลูกกับการผ่าตัดมดลูกแบบ minimally invasive

เราพบการทดลอง 5 รายการ สัดส่วนของสตรีที่รู้สึกว่า HMB ดีขึ้นที่ 2 ปีอาจใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่ม (RR 0.97, 95% CI 0.90 ถึง 1.04; 1 การศึกษา, สตรี 79 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) การสูญเสียเลือดอาจสูงขึ้นในกลุ่ม EA / ER เมื่อประเมินโดยใช้แผนภูมิการประเมินเลือดในภาพ (MD 44.00, 95% CI 36.09 ถึง 51.91; 1 การศึกษา, สตรี 68 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) คุณภาพชีวิตน่าจะต่ำกว่าในกลุ่ม EA / ER เมื่อเทียบกับกลุ่มตัดมดลูกแบบ minimally invasive ในช่วง 2 ปี โดย the 36-item Short Form (SF-36) (MD –10.71, 95% CI –15.11 ถึง –6.30; 2 การศึกษา, สตรี 145 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และ Menorrhagia Multi-Attribute Scale (RR 0.82, 95% CI 0.70 ถึง 0.95; 1 การศึกษา, สตรี 616 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) EA / ER อาจเพิ่มความเสี่ยงของการผ่าตัดต่อไปสำหรับ HMB เมื่อเทียบกับการตัดมดลูกแบบ minimally invasive (RR 7.70, 95% CI 2.54 ถึง 23.32; 4 การศึกษา, สตรี 922 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และการรักษาอาจมีอัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงใกล้เคียงกัน (RR 0.75, 95% CI 0.35 ถึง 1.59; 4 การศึกษา, สตรี 809 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) สตรีที่ได้รับ EA / ER อาจมีโอกาสน้อยกว่าที่จะพอใจกับการรักษาที่ 1 ปี (RR 0.90, 95% CI 0.85 ถึง 0.94; 1 การศึกษา, สตรี 558 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) เราไม่สามารถรวมข้อมูลสำหรับเวลาที่จะกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตตามปกติได้เนื่องจากความแตกต่างกันมาก (99%); อย่างไรก็ตามการศึกษาทั้ง 3 ที่รายงานผลนี้ ล้วนมีทิศทางเดียวกันที่จะบอกว่า EA / ER ดีกว่า

การตัด/การจี้เยื่อบุโพรงมดลูกเปรียบเทียบกับการผ่าตัดมดลูกที่ไม่ระบุช่องทาง

เราพบการทดลอง 3 รายการ EA / ER อาจนำไปสู่การรู้สึกว่า HMB ดีขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการตัดมดลูกที่ไม่ระบุ ช่องทาง (RR 0.89, 95% CI 0.83 ถึง 0.95; 2 การศึกษา, สตรี 403 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) แม้ว่า EA / ER อาจนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงกันโดยใช้ SF-36 General Health Perception ในการติดตามผล 2 ปี (MD –1.90, 95% CI –8.67 ถึง 4.87; 1 การศึกษา, สตรี 209 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) สัดส่วนของสตรีที่มีสุขภาพโดยทั่วไปดีขึ้นที่ 1 ปีอาจต่ำกว่า (RR 0.85, 95% CI 0.77 ถึง 0.95; 1 การศึกษา, สตรี 185 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) EA / ER อาจมีความเสี่ยง 5.4% ที่ต้องผ่าตัดเพิ่มเติมสำหรับการรักษาที่ล้มเหลว (เทียบกับ 0 ที่มีการผ่าตัดมดลูกทั้งหมด; 2 การศึกษา, สตรี 374 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และลดสัดส่วนของสตรี ที่มีอาการไม่พึงประสงค์ร้ายแรง (RR 0.21 , 95% CI 0.06 ถึง 0.80; 2 การศึกษา, สตรี 374 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) การรักษาทั้ง 2 แบบอาจนำไปสู่อัตราความพึงพอใจที่ใกล้เคียงกันในการติดตามผล 1 ปี (RR 0.96, 95% CI 0.88 ถึง 1.04; 3 การศึกษา, สตรี 545 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) EA / ER อาจทำให้เวลาในการกลับสู่กิจกรรมปกติสั้นลง (MD –18.90 วัน, 95% CI –24.63 ถึง –13.17; 1 การศึกษา, สตรี 172 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2 มีนาคม 2021

Tools
Information