สตรีหลายคนเลือกวิธีการทำหมันเพื่อที่จะคุมกำเนิด แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ของสตรีจำนวนน้อยที่ในภายหลังเสียใจกับการตัดสินใจ, แต่จำนวนมากของสตรีที่ทำหมันจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะแก้หมัน การทบทวนวรรณกรรม พบว่า ไม่สามารถหาวิจัยที่ตรงกับเกณฑ์การคัดเข้าของการทบทวนนี้ มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะดำเนินการวิจัยในอนาคตในการศึกษาเปรียบเทียบการทำ IVF กับการต่อหมันเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยากภายหลังการทำหมัน ดังนั้นการทบทวนนี้จะไม่ได้รับการปรับปรุงในอนาคต
มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะดำเนินการวิจัยในอนาคตในการศึกษาเปรียบเทียบการทำ IVF กับการต่อหมันเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยากภายหลังการทำหมัน ดังนั้นการทบทวนนี้จะไม่ได้รับการปรับปรุงในอนาคต
การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดที่นิยมมากที่สุดในโลก สตรีประมาณ 138 ล้านคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ได้รับการทำหมัน และ มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า สตรีที่อายุน้อยมีการทำหมันเพิ่มขึ้น ที่ว่าสตรีจำนวนมากเลือกวิธีการคุมกำเนิดโดยการทำหมัน แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ของสตรีจำนวนน้อยที่ในภายหลังเสียใจกับการตัดสินใจ, แต่จำนวนมากของสตรีที่ทำหมันจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะแก้หมัน
เพื่อที่จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการผ่าตัดแก้หมันกับการทำ IVF ในแง่ของอัตราการคลอดบุตร ความเสี่ยงและความคุ้มค่าของเทคนิคทั้งสองยังจะถูกเปรียบเทียบ
ในการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมนี้ได้สืบค้นในฐานข้อมูลดังต่อไปนี้: Cochrane Menstrual Disorders and Subfertility Review Group Specialised Register, MEDLINE (1966 ถึง 2009), EMBASE (1980 ถึง 2009), PsychInfo (1806-2009) และ CENTRAL (2nd quarter 2009) ผู้วิจัยได้ทำการค้นหาข้อมูลจากรายการอ้างอิงของการทดลอง, การทบทวนวรรณกรรม และตำราที่เกี่ยวข้อง; ค้นหาบทคัดย่อจากการประชุมที่เกี่ยวข้องและสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญในสาขา
Randomised trials ที่เปรียบเทียบการผ่าตัดต่อหมัน กับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
ไม่พบ RCTs ที่ตรงกับเกณฑ์การคัดเข้า
ไม่มีข้อมูลในการรายงาน
แปลเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2020 โดย ผศ.พญ. หลิงหลิง สาลัง ภาควิชา สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น