การผ่าท้องคลอดเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อทำคลอดทารก โดยการผ่าตัดที่ผนังหน้าท้องและมดลูกของมารดา การผ่าตัดนี้จะดำเนินการเมื่อมารดาหรือทารกมีภาวะทางการแพทย์ผิดปกติ การผ่าท้องคลอดโดยทั่วไปจะทำโดยการให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วน ไม่ว่าจะเป็นวิธี spinal หรือ epiduralโดยการฉีดยาระงับความรู้สึกในบริเวณรอบๆไขสันหลังซึ่งจะทำให้มารดามีอาการชาในส่วนล่างของร่างกายตั้งแต่เอวลงไป มารดามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากยาระงับความรู้สึกและการผ่าท้องคลอด ทารกมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะต้องเข้าพักในหออภิบาลเด็กอ่อนหรือแยกจากมารดา
มารดาที่ได้รับการผ่าท้องคลอดด้วยยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่มักจะมีความวิตกกังวลในระหว่างการผ่าตัดและอาจจะมีความรู้สึกไม่สบาย การได้ฟังเพลงแบบผ่อนคลายโดยมารดาเลือกเองอาจทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและต้องการการรักษาน้อยลง
ผลของการทบทวน พบว่าการฟังเพลงในระหว่างการได้รับผ่าท้องคลอดที่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าด้วยยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วน อาจทำให้ชีพจรและคะแนนความพึงพอใจในการคลอดดีขึ้น ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ดังกล่าวจะยังไม่มากพอที่จะมีประโยชน์ทางคลินิก ผู้ประพันธ์การทบทวนค้นพบการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมหนึ่งเรื่องที่สุ่มมารดาจำนวน 76 คน เข้ากลุ่มฟังเพลงที่เลือกเองโดยใช้หูฟังหรือเข้ากลุ่มที่ได้รับการดูแลมาตรฐาน แต่มีข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ได้เพียง 64 ราย มารดาได้ฟังเพลงเริ่มตั้งแต่ได้รับยาระงับความรู้สึกจนกระทั้งการผ่าท้องคลอดสิ้นสุด อัตราการเต้นของหัวใจของมารดาลดลงประมาณ เจ็ด ครั้ง/นาที โดยวัดหลังจากมารดาได้สัมผัสกับทารกแรกเกิดในระหว่างการผ่าตัด และหลังจากแพทย์เย็บแผลที่ผิวหนังเรียบร้อย คะแนนความพึงพอใจของการคลอดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.4 คะแนนบนฐาน 35 คะแนนเมื่อมารดาได้ฟังเพลง อัตราการหายใจและระดับความวิตกกังวลลดลงไม่แตกต่างกันสำหรับทั้งสองกลุ่ม หลังจากสัมผัสกับทารกแรกเกิดและอีกครั้งหลังจากเย็บปิดผิวหนัง การทดลองทำในประเทศไต้หวันและรายละเอียดของวิธีทดลองมีคุณภาพต่ำ
พบว่าการฟังดนตรีในระหว่างการผ่าท้องคลอดโดยการใช้ยาระวังบความรู้สึกเฉพาะที่ที่วางแผนล่วงหน้า อาจทำให้ชีพจรและความพึงพอใจของการคลอดดีขึ้น อย่างไรก็ตามประโยชน์ดังกล่าวมีขนาดเล็กและคุณภาพของวิธีการของการทดลองนี้ยังมีปัญหา ดังนั้นนัยสำคัญทางคลินิกของการฟังดนตรีจึงยังไม่ชัดเจน ควรทำการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อค้นคว้าผลลัพธ์ของการฟังดนตรีในระหว่างการผ่าท้องคลอดโดยการใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนทั้งต่อมารดาและทารก ในสตรีตั้งครรภ์ที่มีเชื้อชาติหลากหลายและมีขนาดตัวอย่างเพียงพอ
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับประโยชน์ของการฟังเพลง ในระหว่างการ ผ่าท้องคลอดภายใต้การได้รับยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ทางคลินิก และจิตใจในมารดาและทารก
เพื่อประเมินประสิทธิผลของการฟังเพลงในระหว่างการผ่าท้องคลอดโดยการได้รับยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ทางคลินิกและจิตใจของมารดาและทารก
เราได้สืบค้น Cochrane Pregnancy and Childbirth Group's Trials Register( วันที่ 30 กันยายน 2008)
เราได้รวบรวมการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมแบบสุ่มซึ่งเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ฟังเพลงเพิ่มจากการให้การดูแลแบบมาตรฐานกับกลุ่มที่ให้การดูแลแบบมาตรฐานอย่างเดียว
ผู้ประพันธ์การทบทวนสองคน, มาลินี เหล่าไพบูลย์และ Ruth Martis ประเมินความเหมาะสมของการนำเข้า โอกาสเสี่ยงการเกิดอคติของการทดลองที่นำเข้าและคัดลอกข้อมูลอย่างอิสระต่อกัน เราวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่เป็นข้อมูลต่อเนื่องด้วยความแตกต่างของค่าเฉลี่ยกับช่วงความเชื่อมั่น 95%
มีการทดลองหนึ่งเรื่องในสตรี 76 ราย ที่วางแผนผ่าท้องคลอดผ่านเกณฑ์นำเข้า แต่มีข้อมูลที่วิเคราะห์ได้เพียง 64 ราย การทดลองมีคุณภาพต่ำ ขาดรายละเอียดของการปกปิดการสุ่มและมีผลลัพธ์ทางคลินิกที่สำคัญของสตรีจำกัด การทดลองไม่ได้รายงานผลลัพธ์ของทารก ผลปรากฎว่าการฟังดนตรีเพิ่มเติมจากการดุแลมาตรฐานในระหว่างการผ่าท้องคลอด โดยการใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนมีผลต่อชีพจรของสตรีหลังจากที่ได้สัมผัสกับทารกแรกเกิดระหว่างการผ่าตัด(MD -7.50 ครั้งต่อนาทีน้อยกว่า, 95% CI -14.08 to -0.92) และหลังจากเย็บแผลผิวหนังเสร็จ(MD -7.37 ครั้งต่อนาทีน้อยกว่า, 95% CI -13.37 to -1.37). มีคะแนนความพึงพอใจของการคลอดสูงขึ้น(ค่าคะแนนสูงสุด 35)(MD of 3.38, 95%CI 1.59 to 5.17) ผลของการฟังดนตรีต่อผลลัพธ์อย่างอื่นไม่มีนัยสำคัญหรือไม่ได้รายงานในการทดลองหนึ่งเรื่องนี้
แปลโดย ศ.ดร. มาลินี เหล่าไพบูลย์ ภาควิชาวิทยาการระบาดและชีวสถิติ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น Cochrane Thailand