การตรวจสุขภาพตามปกติก่อนการผ่าตัดสำหรับการผ่าตัดต้อกระจก

อะไรคือวัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้
จุดมุ่งหมายของ Cochrane Review นี้คือการพิจารณาว่าจำเป็นต้องทำการทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดต้อกระจกหรือไม่

ข้อความสำคัญ
การทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดไม่ได้ลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ในระหว่างหรือหลังการผ่าตัดต้อกระจกเมื่อเทียบกับการทดสอบแบบเลือกหรือไม่มีเลย

สิ่งที่ศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้อะไร?
การผ่าตัดต้อกระจกมีการปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง และมีการใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อเพิ่มอัตราการผ่าตัดต้อกระจกในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ด้วยปริมาณการผ่าตัดต้อกระจกในปัจจุบันและการเพิ่มขึ้นในอนาคต สิ่งสำคัญคือต้องสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้เหมาะสม แต่ยังรวมถึงความคุ้มค่าของขั้นตอนนี้ด้วย ต้อกระจกส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับอายุ ดังนั้นการทำศัลยกรรมในผู้สูงวัยที่มีภาวะสุขภาพอื่นๆและดวงตา มีแนวโน้มว่าการทดสอบทางการแพทย์ตามปกติก่อนการผ่าตัดจะตรวจพบสภาวะทางการแพทย์ แต่น่าสงสัยว่าเงื่อนไขเหล่านี้ควรกีดกันบุคคลจากการผ่าตัดต้อกระจกหรือเปลี่ยนการจัดการระหว่างการผ่าตัด

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร?
เรารวม 3 การศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้ 1 การศึกษามาจากแคนาดาและสหรัฐอเมริกา อีก 1 การศึกษามาจากบราซิล และการศึกษาที่ 3 มาจากอิตาลี การศึกษาเหล่านี้เปรียบเทียบการทดสอบทางการแพทย์ตามปกติก่อนการผ่าตัดกับการทดสอบแบบเลือกหรือไม่มีเลย ผู้เข้าร่วมการศึกษาได้รับการติดตามตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์ถึงสองเดือนหลังการผ่าตัด

การทบทวนวรรณกรรมแสดงให้เห็นว่า:

การทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดไม่ได้ลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ในระหว่างหรือหลังการผ่าตัดต้อกระจกเมื่อเทียบกับการทดสอบแบบเลือกหรือไม่มีเลย 3 การทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่รวมอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้รายงานผลการผ่าตัดต้อกระจกทั้งหมด 21,531 ครั้ง โดยมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดรวม 707 ครั้ง รวมถึงการรักษาในโรงพยาบาล 61 ครั้ง และผู้เสียชีวิต 3 ราย จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ 707 รายการที่รายงาน 353 เกิดขึ้นในกลุ่มที่มีการทดสอบและ 354 เกิดขึ้นในกลุ่มที่ไม่มีการทดสอบ
• ไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนในการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวกับดวงตาระหว่างหรือหลังการผ่าตัด (หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)
• 1 งานวิจัยประเมินค่าใช้จ่าย โดยประเมินว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่า 2.55 เท่าในผู้ที่ได้รับการทดสอบทางการแพทย์เป็นประจำก่อนการผ่าตัด เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับการทดสอบก่อนการผ่าตัดแบบคัดเลือก (หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)
• ไม่มีความแตกต่างในการยกเลิกการผ่าตัดระหว่างผู้ที่ได้รับการทดสอบทางการแพทย์เป็นประจeก่อนการผ่าตัดกับผู้ที่ไม่มีการทดสอบก่อนการผ่าตัดหรือมีแบบคัดเลือก (หลักฐานความเชื่อมั่นสูง)
• ไม่มีการศึกษารายงานการเปลี่ยนแปลงในการจัดการการผ่าตัด (นอกเหนือจากการยกเลิกการผ่าตัด) หรือมาตรการคุณภาพชีวิต (ช่องว่างของหลักฐาน)

ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นอย่างไร
ผู้ทบทวนวรรณกรรมสืบค้นการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึง 29 มิถุนายน 2018

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การทบทวนวรรณกรรมนี้แสดงให้เห็นว่าการทดสอบตามปกติก่อนผ่าตัดไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัดต้อกระจก มีการเสนอทางเลือกอื่นสำหรับการทดสอบทางการแพทย์ตามปกติก่อนการผ่าตัด ซึ่งรวมถึงแบบสอบถามสุขภาพด้วยตนเอง ซึ่งอาจใช้แทนประวัติด้านสุขภาพและการตรวจร่างกายโดยผู้ให้บริการ แนวทางดังกล่าวอาจนำไปสู่วิธีการที่คุ้มค่าในการค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์อันเนื่องมาจากการผ่าตัดต้อกระจก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เหตุการณ์ทางการแพทย์ที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการผ่าตัดต้อกระจกยังคงเป็นปัญหา เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุจำนวนมากที่ป่วยด้วยโรคร่วมหลายอย่างที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกในบริบทต่างๆ การศึกษาที่สรุปในการทบทวนวรรณกรรมนี้ควรให้คำแนะนำสำหรับมาตรฐานการดูแลการผ่าตัดต้อกระจก อย่างน้อยก็ในบริบทที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง น่าเสียดาย ในบริบทเหล่านี้ แบบสอบถามประวัติทางการแพทย์อาจไม่มีประโยชน์ในการตรวจหาความเสี่ยง เนื่องจากมีเพียงไม่กี่คนที่เคยไปพบแพทย์ นับประสาอะไรกับการวินิจฉัยโรคเรื้อรังใดๆ

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การผ่าตัดต้อกระจกมีการปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง และทรัพยากรจำนวนมากได้ถูกกำหนดที่จะเพิ่มอัตราการผ่าตัดต้อกระจกในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ด้วยปริมาณการผ่าตัดต้อกระจกในปัจจุบันและการเพิ่มขึ้นในอนาคต สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยและความคุ้มค่าของการทำนี้ ต้อกระจกส่วนใหญ่ทำในผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยทั่วไปและทางตาสูง มีแนวโน้มว่าการทดสอบทางการแพทย์ตามปกติก่อนการผ่าตัดจะตรวจพบสภาวะทางการแพทย์ แต่น่าสงสัยว่าเงื่อนไขเหล่านี้ควรกีดกันบุคคลจากการผ่าตัดต้อกระจกหรือเปลี่ยนการจัดการระหว่างการผ่าตัด

วัตถุประสงค์: 

1. เพื่อตรวจสอบหลักฐานการลดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์โดยการทดสอบทางการแพทย์ก่อนผ่าตัด

2. เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการทดสอบทางการแพทย์ตามปกติ

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL) (ซึ่งมี Cochrane Eyes and Vision Trials Register) (2018 ฉบับที่ 6); Ovid MEDLINE; Embase.com; PubMed; LILACS BIREME, meta Register of Controlled Trials ( m RCT) (ค้นหาล่าสุด 5 มกราคม 2012); ClinicalTrials.gov และ WHO ICTRP วันที่ทำการค้นหาคือ 29 มิถุนายน 2018 ยกเว้น m RCT ซึ่งไม่มีให้บริการอีกต่อไป เราค้นหาข้อมูลอ้างอิงของรายงานจากการศึกษาที่รวมไว้สำหรับการศึกษาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมโดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับภาษาหรือวันที่ตีพิมพ์

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบการทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดตามปกติกับการไม่มีการทดสอบก่อนการผ่าตัดหรือแบบเลือกตรวจก่อนการผ่าตัดต้อกระจกที่เกี่ยวข้องกับอายุ

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนประเมินบทคัดย่ออย่างอิสระเพื่อเลือกการทดลองที่เป็นไปได้สำหรับการรวม สำหรับแต่ละการศึกษาที่รวบรวมมา ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนได้จัดทำเอกสารแสดงลักษณะการศึกษา คัดลอกข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของอคติอย่างอิสระ

ผลการวิจัย: 

เราพบ 3 การทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่เปรียบเทียบการทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดตามปกติกับการทดสอบแบบเลือกหรือไม่มีการทดสอบก่อนการผ่าตัดสำหรับการผ่าตัดต้อกระจก 21,531 ครั้ง การทดลองที่ใหญ่ที่สุดซึ่งสุ่มทำการผ่าตัด 19,557 ครั้งดำเนินการในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา 1 การศึกษาดำเนินการในบราซิลและ การศึกษาที่ 3 ทำในอิตาลี แม้ว่าการศึกษาจะมีปัญหาบางประการเกี่ยวกับ performance และ detection bias เนื่องจากขาดการปกปิด (มีความเสี่ยงสูงสำหรับ 1 การศึกษา ไม่ชัดเจนสำหรับ 2 การศึกษา) เราประเมินการศึกษาว่าโดยรวมมีความเสี่ยงต่ำที่จะมีอคติ

3 การทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่รวมอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้รายงานผลการผ่าตัดต้อกระจกทั้งหมด 21,531 ครั้ง โดยมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดรวม 707 ครั้ง รวมถึงการรักษาในโรงพยาบาล 61 ครั้ง และผู้เสียชีวิต 3 ราย จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการแพทย์ 707 เหตุการณ์ที่รายงาน มี 353 เหตุการณ์เกิดขึ้นในกลุ่มที่มีการทดสอบ และ 354 เกิดขึ้นในกลุ่มที่ไม่มีการทดสอบ (odds Ratio (OR) 1.00 ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.86 ถึง 1.16 หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) เหตุการณ์ส่วนใหญ่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดและเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด การทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดเป็นประจำไม่ได้ลดความเสี่ยงของการผ่าตัดระหว่างการผ่าตัด (OR 0.99, 95% CI 0.71 ถึง 1.38) หรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ตาหลังการผ่าตัด (OR 1.11, 95% CI 0.74 ถึง 1.67) เมื่อเทียบกับการทดสอบแบบคัดเลือกหรือไม่มีเลย (2 การศึกษา; 2281 การผ่าตัดต้อกระจก หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) หนึ่งการศึกษาประเมินการประหยัดต้นทุน โดยประเมินว่าค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า 2.55 เท่าในผู้ที่มีการทดสอบทางการแพทย์ก่อนผ่าตัด เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีการทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัด (1 การศึกษา การผ่าตัดต้อกระจก 1005 ครั้ง หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีความแตกต่างในการยกเลิกการผ่าตัดระหว่างผู้ที่มีการทดสอบทางการแพทย์ก่อนการผ่าตัดกับผู้ที่มีการทดสอบแบบคัดเลือกหรือไม่มีการทดสอบก่อนผ่าตัด รายงานโดย 2 การศึกษาที่มีการผ่าตัดต้อกระจก 20,582 ครั้ง (OR 0.97, 95% CI 0.78 ถึง 1.21; หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) ไม่มีการศึกษารายงานผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการจัดการทางคลินิก (นอกเหนือจากการยกเลิก) หรือคะแนนคุณภาพชีวิต

บันทึกการแปล: 

ผู้แปล ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 2 พฤศจิกายน 2021

Tools
Information