วิธีการเพื่อส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตขั้นรุนแรง

มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ทั่วโลก โดยคิดเป็นประมาณ 13% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในปี 2007 บางการศึกษารายงานว่ามีอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต บทรายงานจากคณะกรรมการโรคจิตเภทว่าผู้ที่เป็นโรคจิตเภทที่เป็นมะเร็งมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตมากกว่าผู้ป่วยมะเร็งทั่วไปถึง 3 เท่า

ความเจ็บป่วยทางจิตมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพบางชนิด เช่น โรคอ้วน; สูบบุหรี่; การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารที่ไม่ดีซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง มีการประมาณค่า 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งการตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตมีโอกาสยากกว่าที่จะรับการตรวจคัดกรองมะเร็งที่มีอยู่ เหตุผลที่ไม่เข้ามาในศึกษา ได้แก่ รายได้น้อย; อายุที่เพิ่มขึ้น การเดินทางลำบาก; ความลำบากใจ; ขาดการเตือนความจำ; และขาดผู้ให้บริการดูแลที่คุ้นเคย

ในกลุ่มประชากรทั่วไป การเชิญทางโทรศัพท์ การให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ รายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากเชิญครั้งแรก และการตรวจคัดกรองตามโอกาสจะช่วยเพิ่มการส่งเสริมของการตรวจคัดกรองมะเร็ง การลดอุปสรรคทางการเงิน (เช่น การตรวจคัดกรองฟรี บัตรโดยสารรถบัส หรือค่าส่งไปรษณีย์) อาจช่วยได้เช่นกัน นอกจากนี้ แพทย์ GP ยังได้รับการเสนอสิ่งจูงใจภายใต้ขอบเขตงานที่มีคุณภาพและผลลัพธ์เพื่อให้การตรวจสุขภาพร่างกายประจำแก่ผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต ผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตอาจต้องการการดูแลที่เป็นส่วนบุคคลมากขึ้น เช่น การให้คำปรึกษาที่เป็นเชิงลึกขึ้น เพื่อสนับสนุนการตรวจคัดกรอง

การค้นหาอย่างครอบคลุมแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานการทดลองสำหรับวิธีการใดๆ ในการส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต ดังนั้นจึงไม่สามารถแนะนำแนวทางเฉพาะได้ การตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรกโดยการตรวจคัดกรองมีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีของผู้ป่วยรวมถึงการเสียชีวิตด้วย เนื่องจากผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งมากกว่าแต่มีโอกาสน้อยกว่าคนอื่นๆ ที่จะรับการตรวจคัดกรองที่มีอยู่ จึงจำเป็นต้องมีแนวทางที่ดีขึ้นที่ส่งเสริมให้เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างเร่งด่วน จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตไม่พลาดการตรวจคัดกรองมะเร็ง

สรุปเป็นภาษาทั่วไปนี้เขียนโดย: Benjamin Gray ผู้ใช้บริการและผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ใช้บริการ Rethink Mental Illness อีเมล: ben.gray@rethink.org

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การค้นหาที่ครอบคลุมแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันไม่มีหลักฐาน RCT สำหรับรูปแบบวิธีวิจัยใดๆ ในการส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ที่มี SMI ดังนั้นจึงไม่สามารถแนะนำแนวทางเฉพาะได้ RCT ขนาดใหญ่คุณภาพสูงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยแก้ไขความแตกต่างระหว่างผู้ที่มี SMI และคนอื่นๆ ในการตรวจคัดกรองมะเร็ง

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

ผู้ใหญ่ที่มีอาการป่วยทางจิตขั้นรุนแรง (เช่น โรคจิตเภท หรือโรคทางจิตเวชอื่นๆ และโรคไบโพลาร์ที่เกี่ยวข้อง) อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่มีอาการป่วยทางจิตขั้นรุนแรง (SMI) การตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรกโดยการตรวจคัดกรองมีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีของผู้ป่วยรวมถึงการเสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มี SMI มีโอกาสน้อยกว่าคนอื่นๆ ที่จะได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็ง

วัตถุประสงค์: 

เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของวิธีการที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้ใหญ่ที่มี SMI หรือผู้ดูแลหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มการตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ใหญ่ที่มี SMI ที่เหมาะสม

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นข้อมูลจาก Cochrane Schizophrenia Group's Trials Register (25 ตุลาคม 2012; 19 ธันวาคม 2014; 7 เมษายน 2015; 4 กรกฎาคม 2016)

เกณฑ์การคัดเลือก: 

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) ทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่ผู้ใหญ่ที่มี SMI หรือผู้ดูแลหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ใหญ่ที่มี SMI ที่เหมาะสม

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนคัดกรองชื่อเรื่องและบทคัดย่ออย่างอิสระต่อกัน และประเมินสิ่งเหล่านี้ตามเกณฑ์การคัดเลือก

ผลการวิจัย: 

เราไม่พบการศึกษาทดลองใดที่ตรงตามเกณฑ์การคัดเลือก

บันทึกการแปล: 

แปลโดย นายฎลกร จำปาหวาย วันที่ 29 เมษายน 2024

Tools
Information