ใจความสำคัญ
- ขาดหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่จะสนับสนุนการใช้การตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากและเงื่อนไขที่อาจจะนำไปสู่มะเร็งช่องปากในกลุ่มประชากรทั่วไป
- ผู้ปฏิบัติทางวิชาชีพทันตกรรมทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพควรระมัดระวังร่องรอยของความผิดปกติของช่องปากที่อาจเป็นอันตราย (OPMD) และเนื้อร้าย ในขณะที่ทำการตรวจช่องปากตามปกติ สำหรับรอยบาดแผล/เงื่อนไขอื่นๆ ในช่องปากที่พบทั่วไป
การตรวจหามะเร็งช่องปาก
มะเร็งในช่องปาก ถือเป็นภาวะวิกฤติ และมีเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคนี้เท่านั้นที่จะรอดชีวิตได้หลังจากผ่านไป 5 ปี เนื่องจากมักตรวจพบล่าช้า การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อมะเร็งในช่องปากมีขนาดเล็กหรือเป็นภาวะหรือรอยโรคที่พบล่วงหน้า (ซึ่งสามารถกลายเป็นมะเร็งได้) ส่งผลให้การรักษาง่ายขึ้นและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการรักษาดีกว่ามาก เป็นผลให้มีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าการทดสอบประเภทต่างๆ ในการตรวจพบมะเร็งในช่องปากในระยะเริ่มต้นและรอยโรคที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นดีเพียงใด
เราต้องการค้นหาอะไร
จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรมนี้คือเพื่อค้นหาความแม่นยำของการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากแบบต่างๆ และภาวะที่อาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งช่องปาก
เราทำอะไรไปแล้วบ้าง
เราค้นหาการศึกษาที่รายงานความแม่นยำในการทดสอบของการตรวจคัดกรองต่างๆ ในการตรวจหามะเร็งช่องปากหรือ OPMD ในระหว่างการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัยโรคมะเร็งช่องปากหรือ OPMD ทำโดยแพทย์เฉพาะทางหรือพยาธิแพทย์ หรืออีกทางหนึ่งผ่านการติดตามผล เราเปรียบเทียบและสรุปผลการศึกษาและให้คะแนนความเชื่อมั่นในหลักฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วิธีการศึกษาและขนาดของการศึกษา
ผู้วิจัยค้นพบอะไรบ้าง
การศึกษา 18 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 72,202 ราย ที่เผยแพร่ระหว่างปี 1986 ถึง 2019 การศึกษาเหล่านี้ประเมินการตรวจช่องปากแบบทั่วไป (COE) หรือการตรวจด้วยสายตา (การศึกษา 10 ฉบับ) การตรวจช่องปากด้วยตนเอง (การศึกษา 4 บับ) และการตรวจคัดกรองทางไกล (การศึกษา 3 ฉบับ) การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมทดสอบความแม่นยำเปรียบเทียบโดยตรงกับการตรวจช่องปากแบบเดิมรวมกับ vital rinsing เทียบกับการตรวจช่องปากแบบเดิมเพียงอย่างเดียว
ไม่มีการศึกษาใดเลยที่เข้าเกณฑ์ประเมินความแม่นยำของการทดสอบในเลือดหรือน้ำลาย
มีความแตกต่างกันอย่างมากในผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมการศึกษา สถานที่ ความชุกของมะเร็งช่องปากหรือ OPMD และวิธีการทดสอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถรวบรวมข้อมูลมาใว้ด้วยกันได้
- การศึกษาส่วนใหญ่ประเมินความถูกต้องของการตรวจช่องปากแบบทั่วไป (COE) ที่แตกต่างกัน (การศึกษา 10 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 25,568 ราย) ความชุกของมะเร็งปากหรือ OPMD ในการศึกษาเหล่านี้มีค่าระหว่าง 1% ถึง 51% สำหรับการศึกษา การตรวจช่องปากแบบทั่วไป (COE) ทั้ง 7 ฉบับ ที่มีความชุก 10% หรือต่ำกว่า ความชุกที่เปรียบเทียบกับประชากรทั่วไปได้ การประมาณค่าความไว (สัดส่วนของผลบวกแท้) มีค่าอยู่ระหว่าง 0.50 ถึง 0.99 กับการประมาณค่าความจำเพาะ (สัดส่วนของผลลบจริง) มีค่าตั้งแต่ 0.94 ถึง 0.99
- หลักฐานการตรวจช่องปากด้วยตนเอง (การศึกษา 4 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 35,059 ราย) และการตรวจคัดกรองระยะไกล (การศึกษา 3 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 3,600 ราย) มีข้อจำกัดมากขึ้น
ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร
เราตัดสินความน่าเชื่อถือของหลักฐานโดยรวม สำหรับการตรวจช่องปากแบบทั่วไป (COE) ว่าต่ำ และลดระดับลงสำหรับความแปรปรวนระหว่างการศึกษาและการประยุกต์ใช้ตัวอย่างของการศึกษา เราตัดสินความน่าเชื่อถือของหลักฐานโดยรวม สำหรับการตรวจช่องปากด้วยตนเองและการตรวจคัดกรองระยะไกลว่าต่ำมาก และลดระดับเนื่องจากความแปรปรวนระหว่างการศึกษา การประยุกต์ใช้ตัวอย่างของการศึกษา และการประมาณค่าความแม่นยำไม่แม่นยำ
ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้
หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงเดือนตุลาคม 2020
ยังขาดหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นสูงที่จะสนับสนุนการใช้โปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากและ OPMD ในกลุ่มประชากรทั่วไป ผู้ตรวจคัดกรองในแนวหน้า อย่างเช่น ทันตแพทย์ทั่วไป นักทันตสุขลักษณะ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพในชุมชน ยังคงต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของร่องรอยของ OPMD และ OSCC
การตรวจหามะเร็งเซลล์สความัสในช่องปาก (oral cavity squamous cell carcinoma; OSCC) ในระยะเริ่มต้นและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในช่องปาก (OPMD) ตามด้วยการรักษาที่เหมาะสม อาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตและลดความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของมะเร็งตามลำดับ ครั้งนี้เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมของ Cochrane ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2013
เพื่อประเมินความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยของการตรวจช่องปากทั่วไป การล้างจุดสำคัญ การตรวจจับด้วยแสง การตรวจปากด้วยตนเอง การตรวจคัดกรองระยะไกล และตัวชี้วัดทางชีวภาพ ใช้แบบเดี่ยว หรือใช้ร่วมกัน เพื่อตรวจหา OPMD หรือ OSCC ในระยะเริ่มแรกในผู้ใหญ่ที่เห็นได้ชัดว่ามีสุขภาพดี
ผู้เชี่ยวชาญ Cochrane Oral Health's Information Specialist ค้นหาฐานข้อมูลต่อไปนี้: Cochrane Oral Health's Trials Register (ถึง 20 ตุลาคม2020), MEDLINE Ovid (1946 ถึง 20 ตุลาคม2020), และ Embase Ovid (1980 ถึง 20 ตุลาคม 2020) ได้ค้นหาการทดลองที่กำลังดำเนินการอยู่ในทะเบียนการทดลอง the US National Institutes of Health Trials Registry (ClinicalTrials.gov) และ the World Health Organization International Clinical Trials Registry Platform ไม่มีข้อจำกัดทางด้านภาษาหรือวันที่เผยแพร่ในการค้นหาฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เราได้ทำการสืบค้นเอกสารอ้างอิงและคดกรองรายการอ้างอิงของการศึกษาเพื่อใช้อ้างอิงเพิ่มเติม
เราคัดเลือกการศึกษาที่รายงานการทดสอบความแม่นยำที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นในการตรวจหา OPMD หรือ OSCC ระหว่างการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย OPMD หรือ OSCC ถูกดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางหรือนักพยาธิวิทยา หรือผ่านการติดตามผล
ผู้ประพันธ์ 2 ท่านคัดเลือกบทความวิจัยที่เกี่ยวข้องจากชื่อเรื่องและบทคัดย่ออย่างเป็นอิสระกัน การประเมินคุณสมบัติที่เหมาะสม การดึงข้อมูล และคุณภาพถูกดำเนินการโดยผู้เขียนอย่างน้อย 2 คน เป็นอิสระจากกันและเป็นบทความที่ซ้ำกัน ประเมินคุณภาพระเบียบวิธีการศึกษาโดยใช้ the Quality Assessment of Diagnostic Accuracy Studies 2 (QUADAS-2) เรารายงานค่าความไวและความจำเพาะของการศึกษาที่นำเข้ามา เราใช้การประเมิน GRADE ในการตัดสินความเชื่อมั่นของหลักฐาน
รวบรวมการศึกษา ได้ 18 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 72,202 ราย ที่เผยแพร่ระหว่างปี 1986 ถึง 2019 การศึกษาเหล่านี้ประเมินความแม่นยำในการทดสอบการวินิจฉัยของการตรวจช่องปากแบบเดิม (การศึกษา 10 ฉบับ ไม่มีการศึกษาใหม่สำหรับการปรับปรุงครั้งนี้) การตรวจช่องปากด้วยตนเอง (การศึกษา 4 ฉบับ มีการศึกษาใหม่ 2 ฉบับในการปรับปรุงครั้งนี้) และการตรวจคัดกรองระยะไกล (การศึกษา 3 ฉบับ ซึ่งเป็นการศึกษาใหม่ทั้งหมดสำหรับการปรับปรุงครั้งนี้) การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมเพื่อตรวจสอบความแม่นยำในการทดสอบ 1 ฉบับ ประเมินผลการตรวจช่องปากแบบเดิมโดยตรงร่วมกับ vital rinsing เทียบกับการตรวจช่องปากแบบเดิมเพียงอย่างเดียว ไม่มีการศึกษาใดที่เข้าเกณฑ์ในการประเมินการตรวจจับด้วยแสงหรือการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดหรือน้ำลาย (ซึ่งจะทดสอบการมีอยู่ของตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสำหรับ OPMD และ OSCC) มีการศึกษาเพียง 1 ฉบับ เกี่ยวกับการตรวจช่องปากแบบเดิมที่ได้รับการตัดสินว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติต่ำ และมีข้อกังวลเกี่ยวกับการนำไปประยุกต์ใช้โดยรวมต่ำ
เนื่องจากความแตกต่างทางคลินิกของการศึกษาทั้งในแง่ของผู้เข้าร่วมที่ได้รับการคัดเลือก หน่วยที่เก็บข้อมูล ความชุกของกลุ่มเป้าหมาย การประยุกต์ใช้ของดัชนีการทดสอบและมาตรฐานของการอ้างอิง และความลื่นไหลและระยะเวลาของกระบวนการ จึงไม่สามารถรวมข้อมูลภายในขอบเขตของกลุ่มของดัชนีการทดสอบที่กว้างขึ้นได้ สำหรับการตรวจช่องปากแบบทั่วไป (การศึกษา 10 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 25,568 ราย) ความชุกของตัวอย่างการทดสอบความแม่นยำอยู่ระหว่าง 1% ถึง 51% สำหรับการศึกษา 7 ฉบับ ที่มีความชุก 10% หรือต่ำกว่า ซึ่งเป็นความชุกที่เปรียบเทียบกับประชากรทั่วไปมากขึ้น การประมาณการความไวมีความแปรปรวน และอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.50 (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.07 ถึง 0.93) ถึง 0.99 (95% CI 0.97 ถึง 1.00); การประมาณค่าความจำเพาะมีความคงเส้นคงวามากขึ้นและอยู่ระหว่าง 0.94 (95% CI 0.88 ถึง 0.97) ถึง 0.99 (95% CI 0.98 ถึง 1.00) เราตัดสินความเชื่อมั่นโดยรวมของหลักฐานว่าต่ำ และลดระดับลงเนื่องจากเรื่องความไม่สอดคล้อง และความไม่ตรง
หลักฐานการตรวจช่องปากด้วยตนเองและการตรวจคัดกรองระยะไกลมีข้อจำกัดมาก เราตัดสินความเชื่อมั่นโดยรวมของหลักฐานสำหรับการทดสอบดัชนีเหล่านี้ว่าต่ำมาก และลดระดับลงเนื่องจากความไม่แม่นยำ ความไม่สอดคล้อง และความไม่ตรง เราจัดให้หลักฐานจาก vital rinsing (toluidine blue) เป็นวิธีการเสริมของการตรวจช่องปากแบบปกติเมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจช่องปากแบบปกติอย่างเดียวว่าอยู่ในระดับปานกลาง และลดระดับลงเนื่องจากความไม่ตรง การทดลองถูกดำเนินการในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง
แปลโดย ฎลกร จำปาหวาย