วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร
เราต้องการทราบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรืออาหารเสริมมีประสิทธิภาพในการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่ นักวิจัยจาก Cochrane รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด (การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT)) เพื่อตอบคำถามนี้และพบว่ามี 9 การศึกษาที่เกี่ยวข้อง การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ เป็นการศึกษาทางการแพทย์ที่สุ่มเลือกการรักษาหรือการดูแลผู้คน การทดลองประเภทนี้ให้หลักฐานด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือที่สุดว่าวิธีการรักษาหรือการดูแลต่างๆ สร้างความแตกต่างหรือไม่
ใจความสำคัญ
จากการศึกษาเก้าเรื่องที่เราระบุมีแปดการศึกษารายงานว่าผลลัพธ์ที่เราสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลต่อการหายของแผล ผลการวิจัยจาก 5 การศึกษาพบว่ามีหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือต่ำมากเกี่ยวกับผลของผลิตภัณฑ์เสริมชนิดเม็ดรูปแบบรับประทาน ในการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวาน การศึกษาทั้งห้านี้ไม่ได้วัดการรักษาในลักษณะที่เราสามารถมั่นใจได้ในผลลัพธ ์และผู้เข้าร่วมไม่เพียงเพียงพอที่จะทำให้เรามั่นใจในผลที่เกิดขึ้น ผลของการศึกษาอื่น ๆ อีกสามการศึกษายังแสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือต่ำมากว่าอาหารเสริมในรูปแบบอื่น ๆ มีผลต่อการหายของแผลหรือไม่ การศึกษาสองการศึกษา แสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่มีความแน่นอนต่ำมากว่าเครื่องดื่มเสริมโภชนาการมีผลกระทบต่อผลลัพธ์อื่น ๆ หรือไม่ เช่น การเสียชีวิต ความเป็นไปได้ในการตัดแขนขา การลดจำนวนแผลใหม่ หรือคุณภาพชีวิตของคนคนนั้น การศึกษาเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการอย่างดีและมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่เพียงพอที่จะทำให้เรามั่นใจได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
การทบทวนวรรณกรรมนี้ศึกษาอะไร
ผู้ป่วยเบาหวานสามารถเกิดแผลที่เท้าได้ แผลที่เท้าเกิดจากปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงลดลง ความรู้สึกลดลงความผิดปกติของเท้า การบาดเจ็บ หรือสาเหตุทั้งหมดหรือบางส่วนรวมกัน แผลที่เท้าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงของโรคเบาหวานและอาจส่งผลร้ายแรงเช่น การตัดแขนขา
หากเ้นเช่นนั้นจริง แผลที่เท้าก็เหมือนแผลอื่น ๆ จะหายดีและไวขึ้นถ้าคนเราดูแลตัวเองอย่างดี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินและโปรตีนบางชนิดสามารถให้กับผู้ที่เป็นแผลที่เท้าและโรคเบาหวานเพื่อช่วยในการรักษาบาดแผลได้
ผลลัพธ์หลักของการทบทวนคืออะไร
เราพบการศึกษาที่เกี่ยวข้อง 9 การศึกษา ตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2019 โดยมีผู้เข้าร่วม 629 คน ร้อยละ 72 เป็นผู้ชาย อายุโดยเฉลี่ย 59.2 ปี การศึกษาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล การศึกษาสามชิ้นได้สำรวจเครื่องดื่มเสริมโภชนาการชนิดต่างๆและเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มที่มีลักษณะเหมือนกัน แต่ไม่มีอาหารเสริมสารอาหารใด ๆ เพิ่มเติม มี 5 การศึกษาได้สำรวจผลของสารอาหารเสริมชนิดเม็ดประเภทต่างๆ และเปรียบเทียบกับยาเม็ดที่ไม่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ใดๆ หรืออาหารเสริม การศึกษาหนึ่งเปรียบเทียบการฉีดวิตามินดีในปริมาณที่แตกต่างกันสองปริมาณ มี 1 การศึกษาไม่ได้รายงานผลที่น่าสนใจสำหรับการทบทวนนี้
มี 2 การศึกษาได้รับการสนับสนุนจากบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มี 5 การศึกษาได้รับการสนับสนุนจากทุนวิจัยของมหาวิทยาลัยอิหร่าน
การค้นพบจาก 8 การศึกษาไม่ชัดเจนว่าวิธีการทางโภชนาการช่วยเพิ่มการหายของแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้หรือไม่เมื่อเทียบกับการไม่เสริมโภชนาการหรือเปรียบเทียบกับการเสริมสารอาหารในปริมาณที่แตกต่างกัน มี 1 การศึกษารายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และมี 2 การศึกษารายงานจำนวนการตัดแขนขา ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนว่ามีความแตกต่างของจำนวนการตัดแขนขาหรือการเสียชีวิตระหว่างการเสริมโภชนาการกับการไม่เสริมโภชนาการ นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีความแตกต่างในคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือจำนวนแผลที่เกิดขึ้นซ้ำระหว่างการเสริมโภชนาการและไม่มีการเสริมโภชนาการ
โดยรวมแล้วเราตัดสินความน่าเชื่อถือของหลักฐานว่าต่ำมาก ไม่มีการศึกษาใดที่มีผู้เข้าร่วมเพียงพอ มี 5 การศึกษาที่ไม่ได้วัดผลในลักษณะที่เราสามารถมั่นใจได้ในผลลัพธ์ และการศึกษายังดำเนินการได้ไม่ดี ดังนั้นเราจึงไม่มั่นใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมากนัก จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติต่ำและมีความเชื่อมั่นสูงเพื่อทำให้เห็นถึงบทบาที่ชัดเจนของวิธีการทางโภชนาต่อการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้
เราค้นหาการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนมีนาคม ปี 2020
การค้นพบจาก 8 การศึกษา จากหลักฐานที่มีไม่ชัดเจนว่าวิธีการทางโภชนาการช่วยเพิ่มการหายของแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้หรือไม่เมื่อเทียบกับการไม่เสริมโภชนาการหรือเปรียบเทียบกับการเสริมสารอาหารในปริมาณที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่ามีความแตกต่างในอัตราของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ อัตราการตัดแขนขา การเพิ่มขึ้นของแผลที่เท้าใหม่ หรือคุณภาพชีวิตระหว่างการใช้วิธีการทางโภชนาการและยาหลอกหรือไม่ เพื่อประเมินผลของการใช้วิธีการทางโภชนาการต่อการหายของแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
แผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นแผลที่ไม่สามารถรักษาได้หรือรักษาได้ไม่ดี บาดแผลบางส่วนหรือมีความหนาเต็มใต้ต่อข้อเท้า แผลเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ มีค่าใช้จ่ยสูงในการจัดการและทำให้เกิดความผิดปกติและการเสียชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ การมีบาดแผลมีผลกระทบต่อภาวะโภชนาการเนื่องจาก ต้นทุนการเผาผลาญในการซ่อมแซมความเสียหายของเนื้อเยื่อ ซึ่งเพิ่มมานอกเหนือจากการสูญเสียสารอาหารผ่านของเหลวในบาดแผล การแทรกแซงทางโภชนาการสำหรับรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
เพื่อประเมินผลของการแทรกแซงทางโภชนาการต่อการหายของแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
ในเดือนมีนาคม ปี 2020 เราค้นหาจาก ลงทะเบียน Cochrane Wounds Specialised Register; the Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL); Ovid MEDLINE; Ovid Embase และ EBSCO CINAHL Plus นอกจากนี้เรายังได้สืบค้นการศึกษาทางคลินิกที่ลงทะเบียนและกำลังดำเนินการอยู่ และการศึกษาที่ไม่ได้ตีพิมพ์ และรายการเอกสารอ้างอิงจากการศึกษาที่เกี่ยวข้องที่ถูกรวบรวมเข้ามาทำการทบทวนวรรณกรรม การวิเคราะห์เมตต้า และรายงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสุขภาพเพื่อค้นหาการศึกษาเพิ่มเติม ไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา วันที่ตีพิมพ์ หรือสถานที่ที่ทำการศึกษา
เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCTs) ซึ่งประเมินผลของการแทรกแซงทางโภชนาการต่อการหายของแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ผู้ประพันธ์การทบทวนสองคนซึ่งทำงานโดยอิสระต่อกันเพื่อประเมินความเสี่ยงของการมีอคติของการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบที่ได้รวบรวมมา และให้คะแนนความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้วิธีการ GRADE โดยใช้เกณฑ์การนำเข้าและเกณฑ์การวัดคุณภาพที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
เราพบการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ 9 การศึกษา (ผู้เข้าร่วม 629 คน) การศึกษาสำรวจวิธีการทางโภชนาโดยการกิน ดังนี้ โปรตีนพร้อมดื่ม (โปรตีน 20 กรัมต่อขวด 200 มล.) 1 กิโลแคลอรี / มล. อาหารเสริมที่มีวิตามินแร่ธาตุและธาตุเพิ่ม อาร์จินีน กลูตามีน และอาหารเสริม β-hydroxy-β-methylbutyrate อาหารเสริมสังกะสีซัลเฟต 220 มก. อาหารเสริมแมกนีเซียมออกไซด์ 250 มก. กรดไขมันโอเมก้า-3 1000 มก. / วัน จากน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ 150,000 IU ของวิตามินดีเทียบกับ 300,000 IU ของวิตามินดี; แมกนีเซียมออกไซด์ 250 มก. บวกกับวิตามินอี 400 IU และวิตามินดี 50,000 IU ตัวเปรียบเทียบใน 8 การศึกษา คือยาหลอก และ 1 การศึกษา คือปริมาณวิตามินดีที่แตกต่างกัน
มี 8 การศึกษารายงานการวัดผลลัพธ์เบื้องต้นของการหายของแผล มีเพียง 2 การศึกษาเท่านั้นที่รายงานว่าสามารถรักษาได้อย่างสมบูรณ์ การศึกษาเพิ่มเติมอีก 6 การศึกษารายงานเกี่ยวกับการวัดการเปลี่ยนแปลงในขนาดของแผล การศึกษาเหล่านี้รายงานเฉพาะพารามิเตอร์ของขนาดแผล (เช่น ความยาว ความกว้างและความลึก) และไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณของแผล
หลักฐานทั้งหมดที่พบมีความเชื่อมั่นต่ำมาก เราปรับลดระดับความเชื่อมั่นเนื่องจากความเสี่ยงของอคติ ความไม่แน่นอนและความไม่แม่นยำ
ไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมที่รับประทานทางปากที่มีโปรตีน 20 กรัมต่อขวด 200 มล. 1 กิโลแคลอรี / มล. อาหารเสริมที่มีวิตามินแร่ธาตุและธาตุเสริม เพิ่มสัดส่วนของแผลที่หายได้มากกว่ายาหลอกที่เวลา 6 เดือน (risk ratio (RR) 0.80, 95% confidence interval (CI) 0.42 ถึง 1.53) ยังไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมอาร์จินีน กลูตามีน และ β-hydroxy-β-methylbutyrate จะเพิ่มสัดส่วนของแผลที่หายใน 16 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยาหลอก (RR 1.09, 95% CI 0.85 ถึง 1.40)
ไม่แน่ใจว่าวิธีการต่อไปนี้จะเปลี่ยนขนาดของแผลเมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก อาหารเสริมสังกะสีซัลเฟต 220 มก. ประกอบด้วยธาตุสังกะสี 50 มก., อาหารเสริมแมกนีเซียมออกไซด์ 250 มก., กรดไขมันโอเมก้า-3 1000 มก. / วัน จากอาหารเสริมน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, การเสริมแมกนีเซียมและวิตามินอีและการเสริมวิตามินดี ยังไม่แน่ใจว่าวิตามินดี 150,000 IU มีผลต่อขนาดของแผลหรือไม่เมื่อเทียบกับวิตามินดี 300,000 IU
มี 2 การศึกษาได้สำรวจผลลัพธ์รองที่น่าสนใจสำหรับการทบทวนวรรณกรรมนี้ ไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมที่รับประทานทางปากที่มีโปรตีน 20 กรัมต่อขวด 200 มล. 1 กิโลแคลอรี / มล. อาหารเสริมที่มีวิตามินแร่ธาตุและธาตุเสริม ลดจำนวนผู้เสียชีวิต RR 0.96, 95% CI 0.06 ถึง 14.60) หรือลดการถูกตัดแขนขา (RR 4.82, 95% CI 0.24 ถึง 95.88) ได้มากกว่ายาหลอก ไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมอาร์จินีน กลูตามีน และβ-hydroxy-β-methylbutyrate จะเพิ่มคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้มากกว่ายาหลอกที่ 16 สัปดาห์ (MD −0.03, 95% CI −0.09 ถึง 0.03) นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมอาร์จินีน กลูตามีน และ β-hydroxy-β-methylbutyrate ช่วยลดจำนวนแผลใหม่ (RR 1.04, 95% CI 0.71 ถึง 1.51) หรือการตัดแขนขา (RR 0.66, 95% CI 0.16 ถึง 2.69) มากกว่า ได้รับยาหลอก
ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานถึงผลลัพธ์รองในเรื่องค่าใช้จ่ายของวิธีการที่ให้ การยอมรับวิธีการที่ให้ (หรือความพึงพอใจ) ที่เกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายของผู้ป่วย ระยะเวลาในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วย การผ่าตัด หรืออุบัติการณ์ของกระดูกอักเสบ
มี 1 การศึกษา ที่สำรวจผลกระทบของอาหารเสริมอาร์จินีน กลูตามีน และβ-hydroxy-β-methylbutyrate เทียบกับยาหลอกแต่ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องใด ๆ
Translation notes CD011378.pub2