ประสิทธิผลของ chloral hydrate ในการเป็นยาระงับประสาทสำหรับเด็กที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคทางระบบประสาท

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

ในเด็กที่เข้ารับการตรวจ neurodiagnostic แบบไม่ invasive, chloral hydrate มีประสิทธิผลในการระงับประสาทที่เพียงพอ (การทำงานของสมองช้าลง) และปลอดภัยกว่าวิธีอื่นๆ ในการบรรลุการระงับประสาทที่เพียงพอหรือไม่

ความเป็นมา

วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคทางระบบประสาทเป็นการตรวจทางระบบประสาทที่ไม่ invasive ซึ่งมีความสำคัญสำหรับเด็กที่สงสัยว่ามีความผิดปกติทางระบบประสาท การตรวจสอบเหล่านี้รวมถึงการถ่ายภาพสมองและการทดสอบการทำงานของสมองด้วยไฟฟ้า เพื่อให้การทดสอบเหล่านี้ทำได้สำเร็จ เด็กต้องอยู่นิ่งๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 ถึง 45 นาทีระหว่างช่วงเวลาการตรวจ ยาระงับประสาทเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็ก ซึ่งมักจะไม่สามารถอยู่นิ่งได้ในช่วงระยะเวลานี้

วันที่สืบค้น

หลักฐานเป็นปัจจุบันจนถึงพฤษภาคม 2020

ลักษณะของการศึกษา

เรารวม 16 การศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งหมด 2922 คน (อายุไม่เกิน 18 ปี) ในการทบทวนวรรรกรรม การศึกษาที่รวมทั้งหมดได้ดำเนินการในโรงพยาบาลที่ให้บริการการวินิจฉัยทางระบบประสาท การศึกษาส่วนใหญ่ประเมินผลลัพธ์หลัก 3 ประการต่อไปนี้: สัดส่วนของเด็กที่ถูกกล่อมประสาทสำหรับขั้นตอนการวินิจฉัยโรคทางระบบประสาทไม่สำเร็จ ระยะเวลาที่ใช้สำหรับการระงับประสาทที่เพียงพอ และผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับยาระงับประสาท คุณภาพของหลักฐานมีความหลากหลายตั้งแต่ต่ำมากไปจนถึงสูง เหตุผลหลักที่ทำให้คุณภาพของหลักฐานลดลงคือ ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการทดลอง เช่น แพทย์ที่ให้ยาระงับประสาทหรือผู้ปกครองของเด็ก ไม่ได้ถูกปกปิดกับยาระงับประสาทที่ใช้ในเด็ก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ การบันทึกหรือตีความผลลัพธ์

ผลลัพธ์สำคัญ

เราสรุปหลักฐานของประสิทธิผลและอันตรายของยาระงับประสาท oral chloral hydrate เปรียบเทียบกับยาระงับประสาทอื่นๆ การทบทวนวรรณกรรมของเราแนะนำว่า oral chloral hydrate มีประสิทธิผลเทียบเท่ากับยาระงับประสาทที่มีอัตราความล้มเหลวของการระงับประสาทที่คล้ายคลึงกันเมื่อเปรียบเทียบกับ oral dexmedetomidine, oral hydroxyzine hydrochloride, oral midazolam และ oral clonidine; และอาจเป็นยาระงับประสาทที่มีประสิทธิผลมากกว่าโดยมีอัตราความล้มเหลวของการระงับประสาทต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ oral promethazine แม้ว่าการศึกษาที่รวบรวมมาส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า chloral hydrate ปลอดภัยโดยไม่มีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยาระงับประสาทอื่น ๆ 1 การศึกษารายงานว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงจาก oral chloral hydrate เมื่อเปรียบเทียบกับ intranaal dexmedetomidine

คุณภาพของหลักฐาน

คุณภาพของหลักฐานส่วนใหญ่ไม่ดีเนื่องจากข้อบกพร่องในวิธีการศึกษาและขนาดกลุ่มตัวอย่างที่เล็กของแต่ละการศึกษา ดังนั้นความเชื่อมั่นของเราในผลการศึกษาจึงลดลง

ข้อสรุป

นอกเหนือจาก pentobarbital ทางหลอดเลือดดำ, rectal sodium thiopental และดนตรีบำบัดแล้ว oral chloral hydrate ยังมีประสิทธิผลเหมือน หรือมีประสิทธิผลมากกว่าในฐานะยาระงับประสาทเมื่อเทียบกับยาระงับประสาทอื่น ๆ สำหรับเด็กที่ได้รับขั้นตอน neurodiagnostic แบบไม่ invasive เนื่องจากหลักฐานมีคุณภาพต่ำ เราจึงไม่สามารถสรุปผลที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิผลหรือความปลอดภัยของยาระงับประสาทในเด็กที่ศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้ได้ จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อดูผลข้างเคียงของ oral chloral hydrate เมื่อเปรียบเทียบกับยาระงับประสาทชนิดอื่น

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

ความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับการเปรียบเทียบ chloral hydrate โดยการกิน กับวิธีการระงับประสาทแบบอื่นๆ มีความแตกต่างกัน Chloral hydrate โดยการกิน มีอัตราความล้มเหลวของการระงับประสาทต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ promethazine โดยการกิน ความล้มเหลวของการระงับประสาทมีความคล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่ม สำหรับการเปรียบเทียบอื่น ๆ เช่น dexmedetomidine โดยการกิน hydroxyzine hydrochloride โดยการกิน และ midazolam โดยการกิน Chloral hydrate โดยการกิน มีอัตราความล้มเหลวของกาาระงับประสาทสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ intravenous pentobarbital, rectal sodium thiopental และ music therapy ส่วน Chloral hydrate ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่สูงกว่า intranasal dexmedetomidine อย่างไรก็ตาม หลักฐานสำหรับผลลัพธ์ของ oral chloral hydrate เทียบกับ intravenous pentobarbital, rectal sodium thiopental, intranasal dexmedetomidine และดนตรีบำบัด มีความเชื่อมั่นต่ำเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นควรตีความผลการวิจัยด้วยความระมัดระวัง

การวิจัยเพิ่มเติมควรกำหนดผลของ oral chloral hydrate ต่อผลลัพธ์ทางคลินิกที่สำคัญ เช่น การทำหัตถการที่ประสบความสำเร็จ ความต้องการยาระงับประสาทเพิ่มเติม และระดับของการระงับประสาท ที่วัดโดยใช้วิธีที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ซึ่งไม่ค่อยได้รับการประเมินในการศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ ควรมีการศึกษาข้อมูลด้านความปลอดภัยของ chloral hydrate เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลกระทบที่สำคัญ เช่น การขาดออกซิเจน

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

นี่เป็นการปรับปรุงของ Cochrane Review ที่เผยแพร่ในปี 2017

การตรวจ neurodiagnostic ในเด็ก ซึ่งรวมถึงการสร้างภาพประสาทในสมองและการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) มีบทบาทสำคัญในการประเมินความผิดปกติของพัฒนาการทางระบบประสาท การใช้ยากล่อมประสาทที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการ neurodiagnostic สำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กซึ่งมักจะไม่สามารถอยู่นิ่งได้ตลอดขั้นตอน

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินประสิทธิผลและผลข้างเคียงของ chloral hydrate เพื่อเป็นยากล่อมประสาทสำหรับหัตถการการวินิจฉัยโรคทางระบบประสาทที่ไม่ลุกล้ำในเด็ก

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหาฐานข้อมูลต่อไปนี้เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา: Cochrane Register of Studies (CRS Web) และ MEDLINE (Ovid, 1946 ถึง 12 พฤษภาคม 2020) CRS Web ประกอบด้วยการทดลองแบบ randomised หรือ quasi-randomised controlled trials จาก PubMed, Embase, ClinicalTrials.gov, the World Health Organization International Clinical Trials Registry Platform (WHO ICTRP), the Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL) และ the specialized registers of Cochrane Review Groups รวมถึง the Cochrane Epilepsy Group

เกณฑ์การคัดเลือก: 

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่ประเมิน chloral hydrate กับยาระงับประสาทอื่นๆ สารที่ไม่ใช่ยา หรือยาหลอก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรม 2 คน ทำการประเมินการศึกษาที่พบตามเกณฑ์การคัดเข้า ดึงข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของการอคติ อย่างอิสระต่อกัน ผลลัพธ์แสดงเป็น risk ratio (RR) สำหรับข้อมูลแบบ dichotomous และ mean difference (MD) สำหรับข้อมูลแบบต่อเนื่อง โดยมีช่วงความเชื่อมั่น 95% (CIs)

ผลการวิจัย: 

เรารวม 16 การศึกษา เด็กทั้งหมด 2922 คน คุณภาพของระเบียบวิธีวิจัยของการศึกษาที่รวบรวมมาได้มีความแตกต่างกัน การปกปิดผู้เข้าร่วมและบุคลากรไม่สามารถทำได้ในการศึกษาที่รวบรวมมาส่วนใหญ่ และ 3 ใน16 การศึกษา มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอคติสำหรับการเลือกรายงาน การประเมินประสิทธิภาพของยาระงับประสาทยังไม่มีประสิทธิภาพ โดยการเปรียบเทียบทั้งหมดดำเนินการในการศึกษาขนาดเล็ก

เด็กที่ได้รับ choral hydrate โดยการกินมีจำนวนน้อยกว่าที่มีภาวะยาระงับประสาทล้มเหลวเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ promethazine โดยการกิน (RR 0.11, 95% CI 0.01 ถึง 0.82; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) เด็กที่ได้รับ choral hydrate โดยการกิน มีจำนวนที่มีอาการสงบมากกว่าหลังจากให้ยา 1 ครั้งเมื่อเทียบกับการให้ยา pentobarbital ทางหลอดเลือดดำ (RR 4.33, 95% CI 1.35 ถึง 13.89; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) แต่ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนหลังจากให้ยาสองครั้ง (RR 3.00, 95% CI 0.33 ถึง 27.46; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) เด็กที่ได้ choral hydrate โดยการกิน มีการระงับประสาทไม่สำเร็จมากกว่าเมื่อเทียบกับยา sodium thiopenta ทางทวารหนัก (RR 1.33, 95% CI 0.60 ถึง 2.96; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และดนตรีบำบัด (RR 17.00, 95% CI 2.37 ถึง 122.14; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) อัตราความล้มเหลวของการระงับประสาทมีความคล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่มต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบกับ การกิน dexmedetomidine, hydroxyzine hydrochloride, midazolam และ clonidine

เด็กที่ได้รับ choral hydrate โดยการกิน มีเวลาการระงับประสาทที่เพียงพอสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับ dexmedetomidine โดยการกิน (MD −3.86, 95% CI −5.12 ถึง −2.6; 1 การศึกษา), hydroxyzine hydrochloride โดยการกิน (MD −7.5, 95% CI − 7.85 ถึง −7.15; 1 การศึกษา) promethazine โดยการกิน (MD −12.11, 95% CI −18.48 ถึง −5.74; 1 การศึกษา) (หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางสำหรับผลลัพธ์ที่กล่าวมา 3 ประการ), rectal midazolam (MD −95.70, 95% CI - 114.51 ถึง −76.89; 1 การศึกษา) และ clonidine โดยการกิน (MD −37.48, 95% CI −55.97 ถึง −18.99; 1 การศึกษา) (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำสำหรับผลลัพธ์ 2 ประการที่กล่าวมา) อย่างไรก็ตาม เด็กที่่ได้รับ choral hydrate โดยการกินใช้เวลานานกว่าจะได้รับการระงับประสาทที่เพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับยา pentobarbital ทางหลอดเลือดดำ (MD 19, 95% CI 16.61 ถึง 21.39; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) midazolam ทางจมูก (MD 12.83, 95% CI 7.22 ถึง 18.44) ; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และ dexmedetomidine ทางจมูก (MD 2.80, 95% CI 0.77 ถึง 4.83; 1 การศึกษา, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

เด็กที่ได้รับ choral hydrate โดยการกิน มีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะทำขั้นตอน neurodiagnostic ของเด็กที่ตื่นสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับ rectal sodium thiopental (RR 0.95, 95% CI 0.83 ถึง 1.09; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

Chloral hydrate มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้: desaturation เทียบกับ rectal sodium thiopental (RR 5.00, 95% 0.24 ถึง 102.30; 1 การศึกษา), unsteadiness เมื่อเทียบกับ intranasal dexmedetomidine (MD 10.21, 95% CI 0.58 ถึง 178.52; 1 การศึกษา), การอาเจียนเทียบกับ intranasal dexmedetomidine (MD 10.59, 95% CI 0.61 ถึง 185.45; 1 การศึกษา) (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำสำหรับผลลัพธ์ 3 ประการที่กล่าวมาข้างต้น) และการร้องไห้ระหว่างให้ยาระงับประสาทเทียบกับ intranasal dexmedetomidine (MD 1.39, 95% CI 1.08 ถึง 1.80; 1 การศึกษา, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) Chloral hydrate มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงในสิ่งต่อไปนี้: โรคท้องร่วงเมื่อเทียบกับ rectal sodium thiopental (RR 0.04, 95% CI 0.00 ถึง 0.72; 1 การศึกษา), ความดันโลหิต diastolic เฉลี่ยต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโซเดียม thiopental (MD 7.40, 95% CI 5.11 ถึง 9.69; 1 การศึกษา), อาการง่วงนอนเมื่อเทียบกับ clonidine โดยการกิน (RR 0.44, 95% CI 0.30 ถึง 0.64; 1 การศึกษา), อาการเวียนศีรษะเมื่อเปรียบเทียบกับ clonidine โดยการกิน (RR 0.15, 95% CI 0.01 ถึง 2.79; 1 การศึกษา) (ความเชื่อมั่นปานกลาง หลักฐานสำหรับผลลัพธ์ทั้ง 4 รายการดังกล่าว) และหัวใจเต้นช้าเมื่อเปรียบเทียบกับ intranasal dexmedetomidine (MD 0.17, 95% CI 0.05 ถึง 0.59; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) ไม่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญกับ chloral hydrate แม้ว่าจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รวมโดยรวม (RR 7.66, 95% CI 1.78 ถึง 32.91; 1 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 กันยายน 2021

Tools
Information