โปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองเพื่อการจัดการภาวะโคลิกของทารก (infantile colic)

ภาวะโคลิกของทารกคืออะไร?
ภาวะโคลิกของทารกเป็นภาวะที่พบได้ในทารกที่มีสุขภาพดีโดยพบได้จนถึงอายุสี่เดือนซึงมีช่วงเวลาของการร้องไห้ที่ไม่สามารถอธิบายได้และไม่สามารถปลอบให้หยุดได้. ช่วงเวลาการร้องไห้นี้มีแนวโน้มที่จะมากกว่าสามชั่วโมงต่อวัน และเกิดขึ้นสามวันต่อสัปดาห์เป็นเวลาอย่างน้อยสามสัปดาห์. สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดความเหน็ดเหนื่อยและความกังวลของผู้ปกครองในขณะที่พยายามที่จะปลอบประโลมบุตรของพวกเขา.

โปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองนี้คืออะไร
โปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองนี้หมายรวมถึงการให้การฝึกอบรม การสนับสนุน และวิธีการทางจิตวิทยาให้กับผู้ปกครองเพื่อช่วยลดอาการของทารกและลดระดับความวิตกกังวลของผู้ปกครอง

นักวิจัยตรวจสอบอะไร?
การทบทวนวรรณกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองเพื่อการจัดการภาวะโคลิกของทารก และเพื่อระบุเนื้อหาการศึกษาและคุณลักษณะของโปรแกรมดังกล่าว

การศึกษาที่ได้รับการรวบรวมเข้ามา
การทบทวนวรรณกรรมนี้พบว่ามีเจ็ดการศึกษาขนาดเล็กที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (ชนิดของการทดลองที่ผู้เข้าร่วมจะถูกจัดสรรแบบสุ่มให้เป็นสองกลุ่มหรือมากกว่า) โดยมี ผู้เข้าร่วมการศึกษารวม 1187 คน. การศึกษาทั้งหมดทำในทารกที่อายุน้อยกว่าสี่เดือน ระยะเวลาของวิธีการนั้นมีความหลากหลายแตกต่างกัน โดยระยะเวลาที่สั้นที่สุดคือหกวันและยาวที่สุดเป็นเวลาสามเดือน สี่การศึกษาดำเนินการในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งการศึกษาในแคนาดา หนึ่งการศึกษาในเนเธอร์แลนด์และหนึ่งการศึกษาในอิหร่าน. สี่การศึกษาระบุแหล่งเงินทุนของพวกเขา ซึ่งรวมถึงสถาบันการวิจัยแห่งชาติ, มูลนิธิและบริษัททางโภชนาการ.

ห้าการศึกษาเปรียบเทียบโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองกับการไม่ทำสิ่งใดเพิ่มเติม (การรับรอง,ไม่มีวิธีการการแทรกแซงหรือโยกทารกในเปลของพวกเขา) หนึ่งในการศึกษาเหล่านี้ยังเปรียบเทียบโปรแกรมการฝึกอบรมกับกลุ่มที่สามที่ได้รับที่นั่งสำหรับทารกแบบพิเศษโดยเฉพาะ. มีหนึ่งการศึกษาที่เปรียบเทียบโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองกับอาหารที่มีการยกเว้นนม การศึกษาสุดท้ายเปรียบเทียบโครงการฝึกอบรมผู้ปกครองกับโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองแบบเดียวกันร่วมกับการห่อตัวทารก รายละเอียดของการฝึกอบรมไม่ได้ถูกอธิบายอย่างละเอียด แต่วิธีการส่วนใหญ่มักจะมุ่งเน้นไปทางใดทางหนึ่งหรือรวมกันของสิ่งต่อไปนี้: เทคนิคการปลอบทารกที่ร้องไห้ (6 การศึกษา) คำแนะนำการดูแลทั่วไปรวมถึงการนอนหลับ (4 การศึกษา) คำแนะนำการให้อาหาร (2 การศึกษา) การคลายความเครียดและการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ปกครอง (2 การศึกษา) และคำแนะนำในการการเล่นโต้ตอบในเชิงบวก (1 การศึกษา)

ผลการศึกษา
เราพบหลักฐานที่แนะนำว่าโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองอาจลดระยะเวลาการร้องไห้ของทารกเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม อย่างไรก็ตามหลักฐานนี้มาจากการศึกษาขนาดเล็กเพียงสามการศึกษา (ทารก 157 ราย) ซึ่งมีจุดบกพร่องของการศึกษาในระดับที่ต่างกัน ดังนั้นเราจึงพิจารณาว่าความน่าเชื่อถือโดยรวมของผลการศึกษานี้อยู่ในระดับต่ำ. เราพบหลักฐานจากการศึกษาขนาดเล็กหนึ่งการศึกษา (ทารก 20 ราย) ว่าระยะเวลาของการร้องไห้จนเสร็จสิ้นในทารกกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นนม/นมถั่วเหลืองนั้น สั้นกว่ากลุ่มที่มีการฝึกอบรมผู้ปกครอง. จากการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง ”การฝึกอบรมผู้ปกครองกับการใช้ที่นั่งสำหรับทารกแบบพิเศษโดยเฉพาะ้” และ “การฝึกอบรมผู้ปกครองร่วมกับการเปลี่ยนผ้าอ้อม” เราพบว่าไม่มีข้อมูลที่เพียงพอจะสรุปผลได้

ไม่มีการศึกษาใดที่รวบรวมมา รายงานอย่างชัดเจนถึงการเกิดขึ้นของผลข้างเคียงของการฝึกอบรมผู้ปกครอง.

ผลสรุปจากผู้ประพันธ์
แม้ว่าการวิเคราะห์ของเราจะพบว่าระยะเวลาที่ร้องไห้อาจลดลงในกลุ่มของทารกที่ผู้ปกครองเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรม แต่ความแน่นอนของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนั้นแล้ว ควรต้องมีการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบที่มีการออกแบบที่ดีขึ้นเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลและความปลอดภัยของโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองสำหรับการจัดการภาวะโคลิกของทารก

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

มีข้อจำกัดของหลักฐานในแง่ประสิทธิผลและความปลอดภัยของโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองสำหรับการจัดการภาวะโคลิกของทารก แม้จะมีการวิเคราะห์เมตาเดียวที่แสดงให้เห็นว่าการฝึกอบรมผู้ปกครองอาจลดระยะเวลาการร้องไห้สำหรับทารกเมื่อเทียบกับการควบคุม แต่คุณภาพของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำ หลักฐานสำหรับการเปรียบเทียบอื่นๆมีอย่างเบาบาง เราไม่สามารถระบุเนื้อหาการศึกษาได้อย่างครอบคลุมและคุณลักษณะของโปรแกรมการฝึกอบรมที่รวมได้เนื่องจากการขาดข้อมูลในรายงานการศึกษา มีความจำเป็นของการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบเพิ่มเติม: ควรจะระบุวิธีการอย่างชัดเจนเพื่อให้แน่ใจในการนำมาปฏิบัติซ้ำ, ระบุผลลัพธ์ที่วัดอย่างเหมาะสม, และลดความเสี่ยงของการเกิดอคติเพื่อประเมินผลอย่างชัดเจนของบทบาทของโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองในการจัดการภาวะโคลิกของทารก.

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

ภาวะโคลิกของทารก มีผลต่อทั้งทารกและผู้ปกครอง ซึ่งจะเกิดความเหน็ดเหนื่อยและความกังวลจากการที่พยายามที่จะปลอบประโลมบุตรของพวกเขา. วิธีการทั่วไปมุ่งเน้นไปที่การรักษาทางกายภาพเพื่อลดอาการ ซึ่งหลักฐานนั้นยังสรุปในเรื่องของประสิทธิผลไม่ได้. วิธีการอื่นๆ คือให้การฝึกอบรม การสนับสนุน และวิธีการทางจิตวิทยาสำหรับผู้ปกครอง วิธีการเหล่านี้เรียกว่าโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครอง โปรแกรมต่างๆสามารถรวมถึงเทคนิคการผ่อนคลาย คำแนะนำเกี่ยวกับการให้อาหาร หรือการใช้วัสดุอุปกรณ์ในรูปแบบต่างๆ รูปแบบการสอนมีความแตกต่างกันไป ได้แก่ หลักสูตรแบบตัวต่อตัว การเรียนรู้ออนไลน์ วัสดุสิ่งพิมพ์ การเยี่ยมบ้าน และการสนับสนุนและให้คำปรึกษาระยะไกล รีวิวนี้ เรามีวัตถุประสงค์ที่จะตรวจทานหลักฐานการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีการเหล่านี้และตรวจสอบประสิทธิผลของการลดอาการโคลิกของทารก และระดับความวิตกกังวลโดยผู้ปกครอง และความปลอดภัยของวิธีการต่างๆ.

วัตถุประสงค์: 

1. เพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองสำหรับการจัดการภาวะโคลิกของทารกที่อายุน้อยกว่า 4 เดือน
2. เพื่อระบุเนื้อหาทางการศึกษาและคุณลักษณะของโปรแกรมที่เผยแพร่ดังกล่าว

วิธีการสืบค้น: 

ในเดือนมิถุนายน 2562 เราได้สืบค้นการศึกษาใน CENTRAL, MEDLINE, Embase และ 13 ฐานข้อมูลอื่นๆและ 2 การศึกษาที่ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้เรายังใช้วิธีสืบค้นบทคัดย่อของการประชุม, ตรวจสอบเอกสารอ้างอิงของการศึกษาที่รวบรวมมา และติดต่อผู้นำที่อยู่ในสาขานี้ เพื่อให้ได้การศึกษาที่รวบรวมมามากขึ้น.

เกณฑ์การคัดเลือก: 

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCTs) และการทดลองกึ่ง RCTs (quasi-RCTs) ซึ่งตรวจสอบประสิทธิผลของโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครอง เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับวิธีอื่นๆ เปรียบเทียบกับวิธีการอื่นหรือการควบคุม ในกลุ่มทารกที่มีโคลิก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนสองคนทำการเลือกการศึกษา คัดลอกข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ อย่างเป็นอิสระต่อกัน เราใช้ Review Manager 5 ในการวิเคราะห์ข้อมูล เราได้ประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานที่ได้โดยวิธีการของเกรด (GRADE)

ผลการวิจัย: 

การค้นหาของเราพบ 6064 การศึกษา ซึ่งผู้รีวิวได้เลือก 20 การศึกษา สำหรับการทบทวนวรรณกรรมฉบับเต็ม จากการศึกษาที่เลือกมานี้ เราพบเจ็ดการศึกษาซึ่งทำในผู้เข้าร่วม 1187 ราย ที่ตรงกับเกณฑ์การคัดเข้า การศึกษาทั้งหมดทำการศึกษาในทารกอายุต่ำกว่าสี่เดือนที่ทุกข์ทรมานจากโคลิก. สี่การศึกษาดำเนินการในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งการศึกษาในแคนาดา หนึ่งการศึกษาในเนเธอร์แลนด์และหนึ่งการศึกษาในอิหร่าน. สี่การศึกษาระบุแหล่งเงินทุนของพวกเขา ซึ่งรวมถึงสถาบันการวิจัยแห่งชาติ, มูลนิธิและบริษัททางโภชนาการ. ห้าการศึกษาประเมินการฝึกอบรมผู้ปครองเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับการทำให้วางใจหรือการดูแลเป็นปกติ และหนึ่งในการศึกษาเหล่านี้มี 3 กลุ่มเปรียบเทียบ ซึ่งตรวจสอบประสิทธิผลของการใช้ที่นั่งสำหรับทารกโดยเฉพาะ หนึ่งการศึกษาประเมินโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองกับอาหารที่มีการยกเว้นนมและอีกหนึ่งการศึกษาประเมินโปรแกรมการฝึกอบรมผู้ปกครองเทียบกับโปรแกรมการฝึกอบรมดียวกันที่ทำร่วมกับการห่อตัว. ระยะเวลาของวิธีการนั้นมีความหลากหลายแตกต่างกัน โดยระยะเวลาที่สั้นที่สุดคือหกวันและยาวที่สุดเป็นเวลาสามเดือน

โดยทั่วไป การศึกษาส่วนใหญ่มีจำนวนผู้เข้าร่วมการศึกษาน้อยและมีความเสี่ยงสูงของการเกิดอคติ มีแนวโน้มของการเลือกอย่างมีอคติ อคติของการปกปิด และผลจากยาหลอก

เราไม่สามารถทำการวิเคราะห์เชิงคุณภาพที่วางแผนไว้ (วัตถุประสงค์ 2) เนื่องจากการขาดข้อมูลในรายงานการศึกษาและไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้จากผู้วิจัยตามคำขอ ดังนั้น เราจะวิเคราะห์เนื้อหาที่สื่อความหมายโดยใช้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่อย่างจำกัดแทน วิธีการฝึกอบรมผู้ปกครองนั้นเราพบว่าจะมุ่งเน้นไปทางใดทางหนึ่งหรือรวมกันของสิ่งต่อไปนี้: เทคนิคการปลอบทารกที่ร้องไห้ (6 การศึกษา) คำแนะนำการดูแลทั่วไปรวมถึงการนอนหลับ (4 การศึกษา) คำแนะนำการให้อาหาร (2 การศึกษา) การคลายความเครียดและการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ปกครอง (2 การศึกษา) และคำแนะนำในการการเล่นโต้ตอบในเชิงบวก (1 การศึกษา) หนึ่งการศึกษาสอนวิธี ' การดูแลแบบจิงโจ้ ' (kangaroo care) ซึ่งเป็นรูปแบบของกอดผิวสัมผัสผิวที่เฉพาะเจาะจง. กลุ่มควบคุมประกอบด้วยการทำให้วางใจ (2 การศึกษา) การแนะนำในการไกวเปล (1 การศึกษา) หรือการไม่มีวิธีการใดเลย (2 การศึกษา)

การฝึกอบรมผู้ปกครองเทียบกับการควบคุม
เราได้ดำเนินการวิเคราะห์เมตาโดยใช้ข้อมูลจากสามการศึกษา (ทารก 157 ราย) ที่ประเมินผลการศึกษาหลักในเรื่อง ' ระยะเวลาการร้องไห้ที่จุดเสร็จสิ้นของระยะเวลาการศึกษา ' กลุ่มผู้ปกครองที่่ได้รับการฝึกอบรมมีประสิทธิผลมากกว่ากลุ่มควบคุม: ความแตกต่างเฉลี่ย (MD) −113.58 m/d, 95% ช่วงความเชื่อมั่น (CI) −144.19 m/d ถึง −82.96 m/d; คุณภาพหลักฐานในระดับต่ำ (ลดระดับเนื่องจากความไม่เที่ยงและข้อกังวลกับความเสี่ยงของอคติ)

การฝึกอบรมผู้ปกครองเทียบกับที่นั่งสำหรับเด็กทารกโดยเฉพาะ
หนึ่งการศึกษา (38 ผู้เข้าร่วม) พบว่าไม่มีความแตกต่างของเวลาเฉลี่ยในการร้องไห้ระหว่างกลุ่มผู้ปกครองที่ได้รับการฝึกอบรมและกลุ่มที่มีที่นั่งสำหรับเด็กทารกโดยเฉพาะ แต่ไม่ได้รายงานตัวเลขที่เฉพาะเจาะจง

การฝึกอบรมผู้ปกครองเทียบกับการยกเว้นนม/สูตรนมถั่วเหลือง
หนึ่งการศึกษา (20 ผู้เข้าร่วม) เปรียบเทียบการฝึกอบรมผู้ปกครองกับการยกเว้นนม/สูตรนมถั่วเหลืองพบว่าเวลาร้องไห้ที่เสร็จสิ้์นของการศึกษาคือ 2.03 ชั่วโมง กับ 1.08 ชั่วโมง ตามลำดับ.

การฝึกอบรมผู้ปกครองเทียบกับการฝึกอบรมผู้ปกครองร่วมกับการห่อตัว
หนึ่งการศึกษา (398 ผู้เข้าร่วม) เปรียบเทียบการฝึกอบรมผู้ปกครองในวิธีการเดียวกันกับการฝึกอบรมซึ่งเพิ่มวิธีการห่อตัวทารก ไม่ได้รายงานข้อมูลแยกต่างหากสำหรับแต่ละกลุ่ม

ไม่มีรายงานผลข้างเคียง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้รายงานอย่างชัดเจนในการศึกษาใดๆ.

บันทึกการแปล: 

ผู้แปล พญ.กนกรัตน์ ไทยวัชรามาศ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Tools
Information