ประเด็นคืออะไร
บริการตรวจคัดกรองที่จำกัดและระบบสุขภาพที่ไม่เพียงพอในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง (LMICs) นำไปสู่การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ใน LMICs ในช่วงท้าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมขั้นสูง (โดยใช้แมมโมแกรม) ส่วนใหญ่ไม่มีให้บริการในสถานพยาบาลหลายแห่ง และหากมีก็มีราคาแพงเกินไปสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ การทบทวนวรรณกรรมของ Cochrane นี้ตรวจสอบว่าการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน LMICs ในการตรวจเต้านมทางคลินิก (CBE) จะมีผลใดๆ ต่อการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นในบริบทเหล่านี้หรือไม่
ทำไมเรื่องนี้จึงมีความสำคัญ
จำนวนผู้หญิงเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านมในกลุ่ม LMICs สูงเมื่อเทียบกับประเทศที่มีรายได้สูง (HIC) แม้ว่าอัตราการเกิดมะเร็งเต้านมในกลุ่ม HICs จะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ LMICs CBE เป็นเทคนิคการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นที่มีราคาไม่แพง และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก LMICs เพื่อดำเนินการ CBE นั้นมีศักยภาพในการปรับปรุงการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น
คำถามการวิจัยของเรา
การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน CBE เทียบกับไม่มีการฝึกอบรมมีผลใดๆ ต่อการปรับปรุงการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นของโรคหรือไม่ นอกจากนี้ เรายังประเมินด้วยว่าการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน CBE มีผลอย่างไรต่อความแม่นยำในการตรวจหามะเร็งเต้านม ผลของ CBE ต่อการเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งเต้านม และความรู้และการยอมรับ CBE ของผู้หญิง เรารวมการศึกษาที่เผยแพร่ภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2021
เราพบ การศึกษา 4 ฉบับที่ตอบคำถามการวิจัยของเรา การฝึกอบรม CBE จัดขึ้นให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พยาบาล ผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชนที่ทำงานใน LMICs ผู้หญิงจำนวน 947,190 คนได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม จากจำนวนประชากรทั้งหมดที่ได้รับการตรวจคัดกรอง มีการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม 593 ราย โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการฝึกอบรมวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นได้มากกว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ไม่ได้รับการฝึกอบรม ผลจากการศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน CBE อาจเพิ่มการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น แต่หลักฐานที่มีอยู่มีคุณภาพต่ำ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลต่อผลลัพธ์อื่นๆ รวมถึงความแม่นยำของการทำ CBE ความรู้เกี่ยวกับ CBE การยอมรับ CBE และ CBE มีผลต่อการเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งเต้านมหรือไม่
ซึ่งหมายความว่า มีศักยภาพในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น หากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน LMICs ได้รับการฝึกอบรมให้ทำ CBE อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพสูงเพื่อตอบคำถามการวิจัยนี้
การทบทวนวรรณกรรมของเราชี้ให้เห็นถึงประโยชน์บางประการของการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก LMICs ใน CBE เกี่ยวกับการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม หลักฐานเกี่ยวกับการตาย ความแม่นยำของ CBE ที่ทำโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และความสมบูรณ์ของการติดตามยังไม่แน่นอนและต้องมีการประเมินเพิ่มเติม
ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง (LMICs) มักเป็นมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม ข้อจำกัดของระบบสุขภาพที่ให้บริการได้ไม่ดี การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกการรักษาที่จำกัด และการขาดโปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนทำให้ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมในประเทศเหล่านี้มารับการรักษาช้า ผู้หญิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคระยะลุกลามและมักไม่ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงเหตุผลทางการเงินเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพส่วนใหญ่ต้องจ่ายเอง ส่งผลให้เกิดความยากลำบากทางการเงิน ความล้มเหลวของระบบสุขภาพ เช่น บริการขาดหายไป หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขขาดความตระหนักเกี่ยวกับสัญญาณและอาการทั่วไปของมะเร็ง และอุปสรรคทางสังคมวัฒนธรรม เช่น การตีตราและการใช้การรักษาทางเลือก การตรวจเต้านมทางคลินิก (CBE) เป็นเทคนิคการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นที่มีราคาไม่แพงในสตรีที่มีก้อนในเต้านมที่คลำได้ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก LMICs เพื่อดำเนินการ CBE มีศักยภาพในการปรับปรุงคุณภาพของเทคนิคและความสามารถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น
เพื่อประเมินว่าการฝึกอบรม CBE ส่งผลต่อความสามารถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน LMICs ในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นหรือไม่
เราสืบค้น Cochrane Breast Cancer Specialized Registry, CENTRAL, MEDLINE, Embase, the World Health Organization (WHO) International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) search portal และ ClinicalTrials.gov จนถึง 17 กรกฎาคม 2021
เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) (รวมถึง RCTs แบบรายบุคคลและแบบกลุ่ม) การศึกษากึ่งทดลอง และการศึกษาก่อนและหลังแบบมีกลุ่มควบคุม หากเป็นไปตามเกณฑ์คุณสมบัติ
ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คน คัดกรองการศึกษาที่เข้าเกณฑ์ ดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และประเมินความเสี่ยงของอคติ และความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้แนวทาง GRADE โดยอิสระ เราทำการวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้ซอฟต์แวร์ Review Manager และนำเสนอผลการวิจัยหลักในตาราง summary of findings
เรานำเข้า RCTs 4 ฉบับ ที่คัดกรองมะเร็งเต้านมจากประชากรทั้งหมด 947,190 คน โดยในจำนวนนี้มีการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม 593 คน การศึกษาที่รวบรวมทั้งหมดเป็นแบบ cluster RCTs; 2 ฉบับดำเนินการใน India, 1 ฉบับใน Philippines และอีก 1 ฉบับใน Rwanda เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับการฝึกอบรมให้ทำ CBE ในการศึกษาที่รวบรวม ได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมูลฐาน พยาบาล ผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน การศึกษาที่นำเข้า 3 ใน 4 ฉบับ รายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์หลัก (ระยะของมะเร็งเต้านม ณ เวลาที่มาตรวจ) สำหรับผลลัพธ์ทุติยภูมิ การศึกษาที่รวบรวมรายงานความครอบคลุมของ CBE การติดตามผล ความแม่นยำของ CBE ที่ทำโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานผลของ ความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติ (KAP) และความคุ้มค่า
การศึกษา 3 ฉบับ รายงานการวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น (ที่ระยะ 0+I+II) ซึ่งบ่งชี้ว่าการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน CBE อาจเพิ่มจำนวนสตรีที่ตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ฝึกอบรม (45 % ที่ตรวจพบเทียบกับ 31% ที่ตรวจพบ อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 1.44 ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 1.01 ถึง 2.06, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 593 คน I 2 = 0% หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)
การศึกษา 3 ฉบับ รายงานการวินิจฉัยในระยะหลัง (III+IV) ซึ่งบ่งชี้ว่าการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน CBE อาจลดจำนวนสตรีที่ตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะหลังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ฝึกอบรม (ตรวจพบ 13% เทียบกับ 42%, RR 0.58 , 95% CI 0.36 ถึง 0.94; การศึกษา 3 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 593 คน I 2 = 52% หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)
เกี่ยวกับผลลัพธ์ทุติยภูมิจากการศึกษา 2 ฉบับ รายงานการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม โดยนัยว่าหลักฐานไม่แน่นอนสำหรับผลต่อการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม (RR 0.88, 95% CI 0.24 ถึง 3.26; การศึกษา 2 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม 355 คน; I 2 = 68%; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) เนื่องจากความแตกต่างของการศึกษา เราไม่สามารถทำ meta-analysis เพื่อความถูกต้องของ CBE ที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความครอบคลุมของ CBE และความสมบูรณ์ของการติดตามผลได้ ดังนั้นจึงรายงานแบบบรรยายโดยใช้แนวทาง 'การสังเคราะห์โดยไม่มี meta-analysis' (SWiM) ความไวของ CBE ที่ทำโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีรายงานว่าอยู่ที่ 53.2% และ 51.7%; ในขณะที่ความจำเพาะได้รับรายงานเป็น 100% และ 94.3% ตามลำดับ ในการศึกษา 2 ฉบับ (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) การทดลอง 1 ฉบับรายงานความครอบคลุมของ CBE โดยมีค่าเฉลี่ย 67.07% ในการคัดกรอง 4 รอบแรก (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) การทดลอง 1 ฉบับรายงานการติดตามผลว่าอัตราการปฏิบัติตามสำหรับการยืนยันการวินิจฉัยหลังจาก CBE เป็นบวกคือ 68.29%, 71.20%, 78.84% และ 79.98% ระหว่างการคัดกรอง 4 รอบแรกตามลำดับในกลุ่ม CBE เทียบกับ 90.88%, 82.96%, 79.56 % และ 80.39% ระหว่างการคัดกรองสี่รอบตามลำดับในกลุ่มควบคุม
ผู้แปล ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 7 พฤษภาคม 2023 Edit โดย ผกากรอง 31 กรกฏาคม 2023