ประเด็นสำคัญ
การผ่าตัดมดลูกแบบ radical และการตัดต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน (การเอามดลูกออก (womb) พร้อมด้วยเนื้อเยื่อรอบ ๆ และต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน) เป็นการรักษามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น (เมื่อมะเร็งยังคงอยู่ในปากมดลูกและช่องคลอดส่วนบนโดยไม่แพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง) ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ (ปัญหาเกี่ยวกับวิธีที่กระเพาะปัสสาวะเก็บและปล่อยปัสสาวะ) เป็นปัญหาที่พบบ่อยหลังการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ซึ่งเกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทที่ควบคุมการปัสสาวะ
วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรม
เพื่อประเมินประโยชน์และความปลอดภัยของการรักษาเพื่อป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ในสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น เราสืบค้นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สำหรับการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (การศึกษาที่มีการจัดคนหรือกลุ่มคนแบบสุ่ม ให้เข้ากลุ่มสองกลุ่มขึ้นไปโดยได้รับการรักษาแตกต่างกัน) ซึ่งเผยแพร่ถึงเดือนเมษายน 2020
ผลการศึกษาหลัก
เราพบการศึกษา 4 รายการที่ตรงตามเกณฑ์การคัดเข้า การศึกษา 1 รายการเปรียบเทียบยาที่เรียกว่า bethanechol กับยาหลอก (สารที่ไม่มีผลในการรักษาใช้เป็นตัวควบคุมในการทดสอบยา) การศึกษา 3 รายการเปรียบเทียบการใส่สายสวนเหนือหัวหน่าว (การสอดท่อยืดหยุ่น (สายสวน) เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะโดยการตัดที่ท้องส่วนล่างเพื่อระบายปัสสาวะ) กับการ่สวนปัสสาวะด้วยตัวเองเป็นระยะ ๆ (การใส่สายสวนทางท่อปัสสาวะเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งวัน )
Bethanechol กับยาหลอก
Bethanecol อาจลดโอกาสของความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ โดยการลดปริมาณของปัสสาวะที่ตกค้างหลังปัสสาวะ โดยประเมินที่ 1 เดือนหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นของหลักฐานนี้ต่ำมาก และการศึกษาเพิ่มเติมมีโอกาสที่จะบอกได้ดีขึ้นถึงผลลัพธ์นี้
การใส่สายสวนเหนือหัวหน่าวเปรียบเทียบกับการสวนปัสสวะด้วยตนเองเป็นระยะ ๆ
มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะบอกประสิทธิผลของการใส่สายสวนเหนือหัวหน่าวและการสวนปัสสาวะด้วยตนเองเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก ระบุว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างการรักษาทั้งสองนี้ในความเสี่ยงของผลที่ไม่พึงประสงค์และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในช่วงเดือนแรกหลังการผ่าตัด
บทสรุป
ไม่มีการศึกษาใดที่รวบรวมนำเข้า รายงานถึงอัตราการฟื้นตัวในการถ่ายปัสสาวะเองที่ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เวลาที่จะมีปริมาณปัสสาวะเหลือ 50 มล. หรือน้อยกว่า หรือปริมาตรของปัสสาวะที่เหลือหลังการปัสสาวะที่ 6 และ 12 เดือนหลังผ่าตัด ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลลัพธ์ที่สำคัญในการประเมินความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังผ่าตัด หลักฐานที่จำกัด ชี้ให้เห็นว่า bethanechol อาจป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังการผ่าตัดมดลูกอย่าง radical โดยการลดปริมาณปัสสาวะที่เหลือหลังการปัสสาวะ ความเชื่อมั่นของหลักฐานส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำมาก ประสิทธิผลของการใส่สายสวนปัสสาวะหลังผ่าตัดประเภทต่างๆ (การใส่สายสวนเหนือหัวหน่าว และการสวนปัสสาวะด้วยตัวเองเป็นระยะ) ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
ไม่มีการศึกษาใดที่รวบรวมนำเข้า รายงานถึงอัตราการฟื้นตัวในการถ่ายปัสสาวะเองที่ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เวลาที่จะมีปริมาณปัสสาวะเหลือ 50 มล. หรือน้อยกว่า หรือปริมาตรของปัสสาวะที่เหลือหลังการปัสสาวะที่ 6 และ 12 เดือนหลังผ่าตัด ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลลัพธ์ที่สำคัญในการประเมินความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังผ่าตัด
หลักฐานที่จำกัด ชี้ให้เห็นว่า bethanechol อาจลดความเสี่ยงของความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังจากการผ่าตัดมดลูกแบบ radical โดยการลดปริมาณปัสสาวะที่เหลือหลังการถ่ายปัสสาวะ ความเชื่อมั่นของหลักฐานส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำมาก ประสิทธิผลของการใช้สายสวนปัสสาวะหลังผ่าตัดประเภทต่างๆ (ทางเหนือหัวหน่าว การใส่สายสวนด้วยตัวเองแบบไม่ต่อเนื่อง) ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยหลังจากการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ซึ่งเกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทอัตโนมัติในอุ้งเชิงกรานที่ทำให้กล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ หูรูดท่อปัสสาวะ และเนื้อเยื่อในอุ้งเชิงกรานเสียหาย ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะเพิ่มอัตราการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การไปตรวจที่โรงพยาบาล หรือการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และความไม่พอใจของผู้ป่วย นอกจากนี้ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะยังส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต (QoL) ของผู้ป่วยอีกด้วย มีการเสนอมาตรการหลังการผ่าตัดหลายอย่างเพื่อป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังการผ่าตัดมดลูกแบบ radical เท่าที่เราทราบ ยังไม่มีการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของมาตรการเหล่านี้ในการป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ในสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูก
เพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของมาตรการหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ในสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น (ระยะ IA2 ถึง IIA2)
เราสืบค้น Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL; 2020, Issue 4) ใน Cochrane Library, MEDLINE ผ่าน Ovid (1946 ถึง เดือนเมษายน สัปดาห์ที่ 2, 2020) และ Embase ผ่าน Ovid (1980 ถึง 2020, สัปดาห์ที่ 16) นอกจากนี้เรายังตรวจสอบทะเบียนการทดลองทางคลินิก grey literature รายงานการประชุม และเอกสารการอ้างอิงของการศึกษาที่รวบรวมนำเข้า
เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) เพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของมาตรการหลังการผ่าตัดทุกประเภทเพื่อป้องกันความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะหลังจากการผ่าตัดมดลูกแบบ radical ในสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะ IA2 ถึง IIA2
ผู้วิจัย 2 คนเลือก RCTs ที่อาจมีความเกี่ยวข้อง คัดลอกข้อมูล ประเมินความเสี่ยงของอคติ เปรียบเทียบผลลัพธ์และทำการตัดสินเกี่ยวกับคุณภาพและความเชื่อมั่นของหลักฐานอย่างเป็นอิสระ เราแก้ไขข้อขัดแย้งใด ๆ ผ่านการสนทนาหรือปรึกษาหารือกับผวิจัยคนที่ 3 ผลลัพธ์ที่น่าสนใจประกอบด้วยการถ่ายปัสสาวะได้เองที่ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด คุณภาพชีวิต (QoL) เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ปริมาณปัสสาวะที่เหลือหลังการถ่ายปัสสาวะ ที่ 1 เดือนหลังการผ่าตัด การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในช่วงหนึ่งเดือนหลังการผ่าตัด และอาการทางปัสสาวะ
เราพบ 1464 รายงาน จากการสืบค้น (ไม่รวมรายการที่ซ้ำกัน) จากรายงาน 20 รายการที่อาจเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจสอบเราได้รวมรายงาน 5 รายการ ของการศึกษา 4 รายการ การศึกษาส่วนใหญ่มีความเสี่ยงที่ไม่ชัดเจนของอคติในการ เลือกผู้เข้าร่วมโครงการ และการรายงานผล จากการศึกษาทั้ง 4 รายการ มี 1 รายการที่เปรียบเทียบระหว่าง bethanechol กับยาหลอก และการศึกษา 3 รายการเปรียบเทียบการใช้สายสวนแบบ Suprapubic กับการสวนปัสสาสะด้วยตนเองเป็นระยะ ๆ เราพบการศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่ 2 รายการ
Bethanechol กับยาหลอก
การศึกษาไม่ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวในการถ่ายปัสสาวะที่เกิดขึ้นเองใน 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด QoL เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเดือนแรกหลังการผ่าตัดและอาการทางเดินปัสสาวะสำหรับการเปรียบเทียบนี้ ปริมาณของปัสสาวะที่เหลือหลังการปัสสาวะเอง ที่ประเมินในหนึ่งเดือนหลังการผ่าตัดในสตรีที่ได้รับ bethanechol น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก (ค่าเฉลี่ยความแตกต่าง (MD) -37.4 มล., ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) -60.35 ถึง -14.45; 1 การศึกษา, ผู้เข้าร่วม 39 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก)
การใส่สายสวนเหนือหัวหน่าวเปรียบเทียบกับการสวนปัสสวะด้วยตนเองเป็นระยะ ๆ
การศึกษาไม่ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวของการปัสสาวะที่เกิดขึ้นเองที่หนึ่งสัปดาห์และปริมาณปัสสาวะตกค้างหลังการปัสสาวะเอง หลังการผ่าตัดที่หนึ่งเดือนหลังจากการผ่าตัดสำหรับการเปรียบเทียบนี้ ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันไม่มีความแตกต่างกัน (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 0.77, 95% CI 0.24 ถึง 2.49; การศึกษา 1 รายการ, ผู้เข้าร่วม 71 คน; มีหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในช่วงเดือนแรกหลังการผ่าตัด (RR 0.77, 95 % CI 0.53 ถึง 1.13; การศึกษา 2 รายการ, ผู้เข้าร่วม 95 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) ระหว่างผู้เข้าร่วมที่ได้รับการใส่สายสวนเหนือหัวหน่าวและผู้ที่ได้รับการใส่สายสวนด้วยตนเองไม่ต่อเนื่อง ข้อมูลที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะคำนวณผลของมาตรการต่อ QoL และอาการทางเดินปัสสาวะ
ผู้แปล ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1 กุมภาพันธ์ 2021