การทดสอบเพื่อตรวจหาและแจ้งการวินิจฉัยรอยผุบริเวณรากฟัน

เหตุใดการปรับปรุงการตรวจหารากฟันผุจึงเป็นสิ่งสำคัญ

รากฟันผุเป็นโรคที่ทราบกันดี ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อประชากรมีอายุมากขึ้น และรักษาฟันตามธรรมชาติไว้ต่อไปในชีวิตบั้นปลาย เช่นเดียวกับโรคฟันผุส่วนบน (ฟันผุในส่วนบนครอบฟัน) โรครากฟันผุอาจสัมพันธ์กับความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบาย และการสูญเสียฟัน ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปากแย่ลงในผู้สูงอายุ การตรวจพบฟันผุตั้งแต่เนิ่นๆ อาจหมายถึงการรักษาที่จำเป็นมีการรุกล้ำน้อย ซึ่งสามารถรักษาเนื้อเยื่อฟันได้มากขึ้น ยังหมายถึงหมายถึงค่าใช้จ่ายและบริการด้านสุขภาพของผู้ป่วยที่น้อยลงอีกด้วย

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร

จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรม Cochrane นี้คือเพื่อค้นหาว่าเครื่องมือวินิจฉัยใดๆ บ้าง ที่สามารถนำมาใช้เพื่อสนับสนุนทันตแพทย์ทั่วไปในการระบุโรครากฟันผุในผู้ใหญ่ได้อย่างถูกต้อง
ผู้วิจัยได้รวบรวมบทความทางการศึกษา 4 ฉบับ เพื่อตอบคำถามนี้

อะไรคือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการทวนวรรณกรรมนี้

การศึกษา 4 ฉบับซึ่งรวบรวมพื้นผิวรากฟัน 4997 ชิ้นถูกรวมไว้ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ การศึกษานี้เกิดขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์และฮ่องกง และเผยแพร่ระหว่างปี 2009 ถึง 2016 มีการตรวจสอบความแม่นยำของการทดสอบด้วยเลเซอร์ในการศึกษา 4 ฉบับ การศึกษา 2 ฉบับตรวจสอบภาพเอ็กซ์เรย์ (รังสีเอกซ์) การศึกษา 1 ฉบับตรวจสอบการตรวจด้วยสายตาอย่างครอบคลุม และการศึกษา 1 ฉบับตรวจสอบการทดสอบทั้งสองเรื่องของภาพเอ็กซ์เรย์และการตรวจด้วยสายตา

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรมคืออะไร

การศึกษาทั้งหมดรายงานเคสที่ค้นหา (การตรวจหา) มากกว่าการวินิจฉัยซึ่งรวมถึงการพิจารณาความเสี่ยงและประวัติของผู้ป่วย การศึกษา 2 ฉบับประเมินการใช้อุปกรณ์ภายในปาก และการศึกษา 2 ฉบับประเมินการใช้อุปกรณ์กับฟันที่ถอนออก (การศึกษาในหลอดทดลอง) เนื่องจากการศึกษามีจำนวนไม่มากและความแตกต่างที่สำคัญในสถานที่ตั้งของการศึกษาที่รวบรวมมา เราจึงไม่สามารถรวมผลลัพธ์ของการศึกษาได้

ผลการศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้เชื่อถือได้เพียงใด

เราพบข้อจำกัดในการศึกษาที่สำคัญในการศึกษาที่รวบรวมไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมซึ่งมักจะมีการรายงานที่ไม่เพียงพอ การประยุกต์ช้การเลือกผู้ป่วยยังเป็นข้อกังวลสำหรับการศึกษาในหลอดทดลอง 2 ฉบับ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจึงตัดสินว่าความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำมาก

ผลของการทบทวนวรรณกรรมนี้ควรนำไปใช้กับใคร

การศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ดำเนินการในฮ่องกงและสวิตเซอร์แลนด์ และจุดมุ่งหมายไปที่ทันตแพทย์ทั่วไปที่ทำการตรวจทางคลินิกในผู้ใหญ่ที่เข้ารับบริการที่คลินิคทันตกรรม

อะไรคือสิ่งที่เกี่ยวโยงกับการทบทวนวรรณกรรมนี้

เนื่องจากการศึกษามีจำนวนไม่มากและความเชื่อมั่นของหลักฐานที่ต่ำมาก เราจึงไม่สามารถทำประโยชน์เพิ่มเติมใดๆ ของเครื่องมือวินิจฉัยสำหรับการตรวจหาและวินิจฉัยโรคฟันผุที่รากได้

การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

ผู้ทบทวนวรรณกรรมได้สืบค้นการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การตรวจด้วยสายตาและสัมผัสถือเป็นหัวใจหลักในการตรวจหาและวินิจฉัยโรครากฟันผุ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฐานหลักฐานไม่เพียงพอและความเชื่อมั่นของหลักฐานต่ำมาก เราจึงไม่สามารถระบุประโยชน์เสริมของการทดสอบวินิจฉัยเสริมสำหรับการตรวจหาและวินิจฉัยรากฟันผุได้

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

รากฟันผุ (root caries) เป็นโรคที่รู้จักกันดี โดยจะพบความชุกเพิ่มขึ้นในกลุ่มประชากรที่มีอายุมากและสามารถเก็บรักษาฟันตามธรรมชาติไว้ได้ในช่วงปลายของชีวิต เช่นเดียวกับฟันผุส่วนบน รากฟันผุอาจเกี่ยวข้องกับความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบาย การสูญเสียฟัน และส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ การเสริมด้วยการตรวจด้วยการมองเห็นอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความแม่นยำของการตรวจหาและวินิจฉัยโรคตั้งแต่เนิ่นๆ การตรวจหารอยผุบริเวณรากฟันในระยะเริ่มแรกในระยะของโรคสามารถวินิจฉัยและนำไปสู่การรักษาเชิงป้องกันแบบเฉพาะเจาะจงและหยุดหยั้งรอยโรคได้

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินความแม่นยำในการวินิจฉัยของการทดสอบตัวชี้วัดสำหรับการตรวจหาและวินิจฉัยรากฟันผุในผู้ใหญ่ ใช้เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับการทดสอบอื่นๆ

วิธีการสืบค้น: 

ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลของ Cochrane Oral Health ทำการสืบค้นจากฐานข้อมูลต่อไปนี้: MEDLINE Ovid (1946 ถึง 31 ธันวาคม 2018); Embase Ovid (1980 ถึง 31 ธันวาคม 2018);US National Institutes of Health Ongoing Trials Register (ClinicalTrials.gov ถึง 31 ธันวาคม 2018); the World Health Organization International Clinical Trials Registry Platform (ถึง 31 ธันวาคม 2018) เราศึกษาทั้งรายการอ้างอิง ตลอดจนบทความการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่ตีพิมพ์

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวบรวมการศึกษาที่ออกแบบเพื่อดูความแม่นยำของการวินิจฉัยที่เปรียบเทียบการทดสอบตัวชี้วัดตั้งแต่ 1 รายการขึ้นไป (การเรืองแสงด้วยเลเซอร์, ภาพถ่ายเอกซเรย์, การตรวจด้วยสายตา, เครื่องตรวจฟันผุด้วยไฟฟ้า (ECM), การส่องแสงผ่าน) ไม่ว่าจะแยกกันหรือรวมกัน โดยมีมาตรฐานอ้างอิง การทบทวนวรรณกรรมนี้ได้รวบรวมการศึกษาแบบไปข้างหน้าที่ประเมินความแม่นยำในการทดสอบดัชนีชี้วัดแบบเดี่ยว และการศึกษาที่เปรียบเทียบการทดสอบดัชนีชี้วัด 2 รายการขึ้นไปโดยตรง การศึกษาในหลอดทดลองและในสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมก็จะถูกรวบรวมใว้ แต่รอยโรคฟันผุที่สร้างขึ้นจะไม่รวมเข้าในการศึกษานี้

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้แต่ง 2 คนดึงข้อมูลอย่างเป็นอิสระต่อกันโดยใช้การดึงข้อมูลแบบมาตรฐานและแบบฟอร์มการประเมินคุณภาพตามการประเมินคุณภาพของ Quality Assessment of Diagnostic Accuracy Studies 2 (QUADAS-2) ที่เฉพาะกับบริบทของการทบทวนวรรณกรรม การประมาณความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยแสดงเป็นความไวและความจำเพาะโดยมีช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) สำหรับแต่ละชุดข้อมูล เราวางแผนที่จะใช้ตัวแบบแบบลำดับขั้นสำหรับการสังเคราะห์ข้อมูลและสำรวจศักยภาพแหล่งข้อมูลของความแตกต่างผ่าน meta-regression

ผลการวิจัย: 

การศึกษาความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยแบบภาคตัดขวาง 4 ฉบับ ซึ่งมีชุดข้อมูล 8 ชุด พร้อมข้อมูล 4997 ของพื้นผิวราก ได้รับการวิเคราะห์ การศึกษาในหลอดทดลอง 2 ฉบับ ประเมินรอยโรครากฟันผุที่เกิดครั้งที่ 2 ที่ถูกถอนออก และการศึกษาในสิ่งมีชีวิต 2 ฉบับ ประเมินรอยโรครากฟันผุที่เกิดครั้งแรกภายในช่องปาก การศึกษา 4 ฉบับ ประเมินการเรืองแสงด้วยเลเซอร์และรายงานค่าประมาณความไวตั้งแต่ 0.50 ถึง 0.81 และความจำเพาะตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.80 การศึกษา 2 ฉบับ ประเมินภาพถ่ายเอกซเรย์และรายงานค่าประมาณความไวตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.63 และความจำเพาะตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.80 การศึกษา 1 ฉบับประเมินการตรวจด้วยสายตาและรายงานความไว 0.75 (95% CI 0.48 ถึง 0.93) และความจำเพาะ 0.38 (95% CI 0.14 ถึง 0.68) การศึกษา 1 ฉบับ ประเมินความแม่นยำของภาพถ่ายเอกซเรย์และการตรวจด้วยสายตาร่วมกัน และรายงานความไวที่ 0.81 (95% CI 0.54 ถึง 0.96) และความจำเพาะที่ 0.54 (95% CI 0.25 ถึง 0.81) เมื่อพิจารณาจากการศึกษามีจำนวนน้อยและความแตกต่างที่สำคัญในลักษณะทางคลินิกและระเบียบวิธีวิจัยของการศึกษา เราไม่สามารถรวมผลลัพธ์ได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถประเมินเปรียบเทียบความถูกต้องของการทดสอบที่แตกต่างกันที่พิจารณาในการทบทวนวรรณกรรมนี้ได้อย่างเป็นทางการ การใช้ QUADAS-2 เราตัดสินว่าการศึกษาทั้ง 4 ฉบับมีความเสี่ยงโดยรวมของการมีอคติสูง แต่มีเพียงการศึกษา 2 ฉบับเท่านั้นที่คำนึงถึงเรื่องการนำไปใช้ (โดเมนการเลือกผู้ป่วย) เหตุผลต่างๆ รวบรวมอคติในกระบวนการคัดเลือก การใช้เกณฑ์ความเป็นบวกภายหลังวิเคราะห์ (ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล) การใช้มาตรฐานอ้างอิงที่ไม่สมบูรณ์ และการใช้ฟันที่ถอนออก

เราลดระดับความแน่นอนของหลักฐานเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำของผลลัพธ์ที่ร้ายแรง (ลดลง 2 ระดับ) และตัดสินความเชื่อมั่นของหลักฐานว่าอยู่ในระดับต่ำมาก

บันทึกการแปล: 

แปลโดย นายฎลกร จำปาหวาย วันที่ 23 มีนาคม 2024

Tools
Information