ผลของยารักษาพยาธิลำไส้จากดินที่ปนเปื้อนในสตรีมีครรภ์

ประเด็นคืออะไร

การติดเชื้อพยาธิจากดินปนเปื้อน ได้แก่ พยาธิปากขอ พยาธิตัวกลม และพยาธิแส้ม้า หนอนในลำไส้เหล่านี้ (หนอนพยาธิ) กินเลือดและสามารถนำไปสู่ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในสตรีวัยเจริญพันธุ์ หนอนปรสิตยังปล่อยสารที่หยุดการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นจึงทำให้เลือดออกมากขึ้น สตรีที่ได้รับผลกระทบมักมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน และท้องร่วง ซึ่งลดปริมาณสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการผลิตเซลล์เม็ดเลือด ส่งผลให้สุขภาพของสตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์ได้รับผลกระทบ

Antihelminthics เป็นยาที่ขับพยาธิออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะโดยการทำให้มึนงงหรือฆ่าพวกมัน โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับโฮสต์ Antihelminthics มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันผลที่เป็นประโยชน์และความปลอดภัยเมื่อให้ในระหว่างตั้งครรภ์

ทำไมเรื่องนี้จึงมีความสำคัญ

สตรีในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง (LMICs) มักมีพยาธิที่สามารถนำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้ เนื่องจากพวกเธออาจตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรได้มากถึงครึ่งหนึ่งของอายุการเจริญพันธุ์ สตรีที่เป็นโรคโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพไม่ดี คลอดก่อนกำหนด และมีทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ (LBW) ที่มีธาตุเหล็กสำรองต่ำ การขาดธาตุเหล็กสามารถลดความสามารถและพัฒนาการทางจิตใจของทารก รวมทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายของทารก

เราพบหลักฐานอะไร

เราค้นหาหลักฐานในเดือนมีนาคม 2021 และพบ 6 การศึกษาแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (ในรายงาน 24 ฉบับ) ซึ่งรวมถึงสตรีมีครรภ์ 7873 ราย การทดลองที่รวมทั้งหมดได้ดำเนินการในคลินิกฝากครรภ์ภายในโรงพยาบาลใน LMICs (ยูกันดา ไนจีเรีย เปรู อินเดีย เซียร์ราลีโอน และแทนซาเนีย) ทั้งหมดยกเว้นหนึ่งในการทดลองที่รวมไว้ได้ให้อาหารเสริมธาตุเหล็กแก่สตรีที่เข้าร่วมการศึกษา เช่นเดียวกับยาต่อต้านพยาธิ

หลักฐานจาก 5 การทดลอง (สตรี 5745 คน) ชี้ให้เห็นว่าการถ่ายพยาธิโดยใช้ยาต้านหนอนพยาธิเพียงครั้งเดียวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์อาจช่วยลดภาวะโลหิตจางของมารดา (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) เราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลต่อการคลอดก่อนกำหนด (สตรี 1042 คนใน 1 การศึกษา) หรือการตายปริกำเนิด (สตรี 3356 คนใน 3 การศึกษา) โดยมีหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำสำหรับผลลัพธ์ทั้งสอง ยาต้านพยาธิอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยกับทารก LBW (สตรี 3301 คนใน 4 การศึกษา ) หรือน้ำหนักแรกเกิด (สตรี 3301 คนใน 4 การศึกษา) โดยมีหลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางสำหรับผลลัพธ์ทั้งสอง จำนวนสตรีที่มีพยาธิลดลง (สตรี 2488 คนใน 2 การศึกษา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร

ยาต้านพยาธิที่รับประทานในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์อาจช่วยลดภาวะโลหิตจางในมารดาและจำนวนสตรีที่มีหนอนพยาธิได้ แต่ไม่มีผลกระทบต่อผลลัพธ์อื่นๆ ของมารดาหรือการตั้งครรภ์ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในกลุ่มสตรีบางกลุ่มและเกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีการเพิ่มเติมด้วยยาต้านพยาธิ ซึ่งรวมถึงการให้ความรู้ด้านสุขภาพ

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

หลักฐานบ่งชี้ว่าการให้ยาต้านหนอนพยาธิเพียงครั้งเดียวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์อาจช่วยลดภาวะโลหิตจางในมารดาและความชุกของพยาธิได้เมื่อใช้ในสถานที่ที่มีความชุกของโรคพยาธิในมารดาสูง จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสรุปประโยชน์ของการรักษาด้วยยาต้านพยาธิต่อผลลัพธ์อื่นๆ ของมารดาและการตั้งครรภ์

การวิจัยในอนาคตควรเน้นที่การประเมินผลของสารต้านพยาธิในกลุ่มย่อยต่างๆ เพื่อประเมินว่าผลนั้นแตกต่างกันไปหรือไม่ การศึกษาในอนาคตยังสามารถประเมินประสิทธิผลของวิธีการร่วมและการให้ความรู้ด้านสุขภาพควบคู่ไปกับยาแก้พยาธิสำหรับผลลัพธ์ต่อมารดาและการตั้งครรภ์

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

Helminthiasis เป็นการเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์ด้วยหนอนปรสิต คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ 44 ล้านครั้งทั่วโลกในแต่ละปี โรคพยาธิในลำไส้ (การติดเชื้อพยาธิปากขอ) เกี่ยวข้องกับการสูญเสียเลือดและปริมาณสารอาหารที่ลดลงสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก สตรีมีครรภ์มากกว่า 50% ในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง (LMIC) เป็นโรคโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก แม้ว่าโรคโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็กจะมีหลายปัจจัย แต่การระบาดของพยาธิปากขอเป็นสาเหตุสำคัญในสตรีวัยเจริญพันธุ์ในพื้นที่ที่มีการระบาด Antihelminthics มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันผลที่เป็นประโยชน์และความปลอดภัยเมื่อให้ในระหว่างตั้งครรภ์ นี่คือการปรับปรุงของ Cochrane Review ที่เผยแพร่ล่าสุดในปี 2015

วัตถุประสงค์: 

เพื่อตรวจสอบผลของการถ่ายพยาธิจำนวนมากด้วยยาต้านพยาธิสำหรับพยาธิที่ติดต่อทางดิน (STH) ในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์ต่อผลลัพธ์ของมารดาและการตั้งครรภ์

วิธีการสืบค้น: 

สำหรับการปรับปรุงนี้ เราค้นหา Cochrane Pregnancy and Childbirth's Trials Register, ClinicalTrials.gov, the World Health Organization International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) (8 มีนาคม 2021) และรายการอ้างอิงของการศึกษาที่ค้นมาได้

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบทั้งหมดซึ่งประเมินผลของการให้ยาต้านหนอนพยาธิเทียบกับยาหลอกหรือไม่มีการรักษาในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์ ทั้งการทดลองแบบสุ่มรายบุคคลและแบบคลัสเตอร์ก็เข้าเกณฑ์ เราคัด quasi-randomised trials และการศึกษาที่มีเพียงบทคัดย่อที่มีข้อมูลไม่เพียงพอออก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนประเมินการทดลองเพื่อรวมและความเสี่ยงต่อการเกิดอคติ คัดลอกข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้องอย่างอิสระต่อกัน และประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้แนวทาง GRADE

ผลการวิจัย: 

เรารวม 6 การทดลอง (24 รายงาน) ที่สุ่มตัวอย่างสตรีตั้งครรภ์ 7873 คน การทดลองที่รวมทั้งหมดได้ดำเนินการในคลินิกฝากครรภ์ภายในโรงพยาบาลใน LMICs (ยูกันดา ไนจีเรีย เปรู อินเดีย เซียร์ราลีโอน และแทนซาเนีย) ในบรรดาผลลัพธ์หลัก 5 การทดลองรายงานภาวะโลหิตจางของมารดา 1 การศึกษารายงานการคลอดก่อนกำหนด และ 3 การศึกษารายงานการเสียชีวิตปริกำเนิด ในบรรดาผลลัพธ์รอง การทดลองที่รวมรายงานความชุกของหนอนของมารดา น้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ (LBW) และน้ำหนักแรกเกิด ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานการวัดสัดส่วนร่างกายของมารดาหรือการอยู่รอดของทารกเมื่ออายุ 6 เดือน โดยรวมแล้ว เราตัดสินว่าการทดลองที่รวบรวมมานั้นโดยทั่วไปมีความเสี่ยงของอคติต่ำสำหรับโดเมนส่วนใหญ่ ในขณะที่ความเชื่อมั่นของหลักฐานมีตั้งแต่ต่ำถึงปานกลาง

การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าการให้ยาต้านหนอนพยาธิเพียงครั้งเดียวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์อาจลดภาวะโลหิตจางของมารดาได้ 15% (average risk ratio (RR) 0.85 ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.72 ถึง 1.00; I²= 86%; 5 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 5745 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) เราไม่เชื่อมั่นในผลของยาต้านพยาธิในระหว่างตั้งครรภ์ต่อการคลอดก่อนกำหนด (RR 0.84, 95% CI 0.38 ถึง 1.86; 1 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 1042 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) หรือการเสียชีวิตปริกำเนิด (RR 1.01, 95% CI 0.67 ถึง 1.52; การทดลอง 3 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 3356 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

เราไม่เชื่อมั่นถึงผลของยาต้านพยาธิในระหว่างตั้งครรภ์ต่อพยาธิปากขอ (average RR 0.31, 95% CI 0.05 ถึง 1.93; Tau² = 1.76, I² = 99%; 2 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 2488 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ในบรรดาผลลัพธ์รองอื่น ๆ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการให้ยาต้านพยาธิในระหว่างตั้งครรภ์อาจลดความชุกของ trichuris (RR 0.68, 95% CI 0.48 ถึง 0.98; I²=75%; 2 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 2488 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) และ ascaris (RR 0.24, 95% CI 0.19 ถึง 0.29; I²= 0%; 2 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 2488 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ยาต้านพยาธิในระหว่างตั้งครรภ์อาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยกับ LBW (RR 0.89, 95% CI 0.69 ถึง 1.16; 3 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 2960 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และน้ำหนักแรกเกิด (ความแตกต่างเฉลี่ย 0.00 กก., 95% CI -0.03 กก. ถึง 0.04 กก.; 3 การทดลอง, ผู้เข้าร่วม 2960 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 23 ตุลาคม 2021

Tools
Information