วิตามินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสรและแร่ธาตุเสริมะช่วยชะลอการลุกลามของโรคจอประสาทตาเสื่อม (age-related macular degeneration; AMD) ที่เกี่ยวข้องกับอายุหรือไม่

ใจความสำคัญ
- การรับประทานอาหารเสริมวิตามินรวมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอาจชะลอการลุกลามของโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) ที่เกี่ยวข้องกับอายุ ซึ่งเป็นโรคทางตาที่ทำให้การมองเห็นส่วนกลางของคุณพร่ามัว

ผู้ที่เป็นโรค AMD ระดับปานกลางมีโอกาสสูงที่จะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลุกลามสูงกว่าผู้ที่เป็นโรค AMD ในระยะแรก

- แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ววิตามินเสริมจะถือว่าปลอดภัย แต่การศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้ไม่ได้ให้หลักฐานที่ดีเกี่ยวกับความปลอดภัย เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วมีขนาดเล็กกินไป

จอประสาทตาเสื่อมตามอายุคืออะไร

จอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (AMD) เป็นโรคตาที่ทำให้การมองเห็นส่วนกลางของคุณพร่ามัว โดยปกติมักจะวินิจฉัยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเท่านั้น AMD ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนกลาง (macula: จุดมองเห็นชัดที่สุด) ของด้านหลังของดวงตา (เรตินา) เนื่องจากการสื่อมของ macula ตามอายุ

ในระยะเริ่มต้นของ AMD จุดสีเหลือง (เรียกว่า drusen) สามารถมองเห็นได้ใต้จอตาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตา ผู้ได้รับผลกระทบอาจจะไม่รู้ว่าตนเองมีปัญหา เมื่อโรคดำเนินไป drusen จะมีขนาดใหญ่ขึ้น (AMD ระดับกลาง) ในระยะหลังของโรค อาจมีการสูญเสียเซลล์ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็นบริเวณด้านหลังของดวงตา สิ่งนี้เรียกว่า geographic atrophy บางครั้งหลอดเลือดใหม่ (ที่เป็นอันตราย) จะเติบโตในมาคูลา หลอดเลือดใหม่เหล่านี้อาจมีเลือดออกและทำให้เกิดแผลเป็น สิ่งนี้เรียกว่า neovascular AMD ซึ่ง Neovascular AMD และ geographic atrophy เรียกว่า AMD ช่วงปลาย

เหตุใดวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุจึงมีประโยชน์

วิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุอาจช่วยปกป้อง macula จุดภาพชัดจากการเสื่อมสภาพและการสูญเสียการมองเห็น สารต้านอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลตามธรรมชาติที่อาจป้องกันหรือชะลอความเสียหายของเซลล์บางประเภท วิตามินซีและอี เบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทีน และสังกะสีเป็นตัวอย่างของสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

เราต้องการค้นหาอะไร
เราต้องการทราบว่าวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุเสริมชะลอการลุกลามของโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) ที่เกี่ยวข้องกับอายุและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นหรือไม่

เราทำอะไร

เราค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบอาหารเสริมวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุกับยาหลอก (การรักษา 'หลอก' ที่ไม่มีอาหารเสริมใดๆ) หรือไม่ได้รับการรักษาเลย เราดูเฉพาะผลกระทบของอาหารเสริมเหล่านี้ในผู้ที่เป็นโรค AMD มีการทบทวน Cochrane อีกชิ้นที่เกี่ยวกับผลกระทบของอาหารเสริมเหล่านี้ในผู้ที่ยังไม่มี AMD เราเปรียบเทียบและสรุปผลการศึกษา และประเมินความเชื่อมั่นของเราต่อหลักฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วิธีการศึกษาและขนาดของการศึกษา

ผู้วิจัยค้นพบอะไร

เราพบการศึกษา 26 ฉบับ จากสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และออสเตรเลีย ที่ลงทะเบียนผู้ป่วย AMD จำนวน 11,952 คน การศึกษาเหล่านี้เปรียบเทียบอาหารเสริมวิตามินรวม สังกะสี วิตามินอี ลูทีน (มีหรือไม่มีซีแซนทีน) กับยาหลอก ผู้เข้าร่วมมีอายุ 65 ถึง 75 ปี และมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อยในการศึกษานี้

ผลการศึกษาหลัก

• การรับประทานอาหารเสริมวิตามินรวมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (สูตร AREDS ที่มีวิตามิน E และ C เบต้าแคโรทีนและสังกะสี) อาจชะลอการลุกลามของ AMD ไปจนถึง AMD ระยะสุดท้ายและการสูญเสียการมองเห็น ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นเล็กน้อย

• ผู้ที่เป็นโรค AMD ระดับกลางมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค AMD ในช่วงปลาย และอาจมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมมากกว่า (ผู้ป่วยทุก ๆ 1000 คนที่รับประทานอาหารเสริมจะมีความก้าวหน้าน้อยลง 78 เคส) ผู้ที่เป็นโรค AMD ในระยะเริ่มต้นมีความเสี่ยงต่อการดำเนินโรคต่ำ ดังนั้นจึงอาจมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์น้อยกว่า (มีผู้ป่วยโรค AMD ที่ลุกลามเป็นระยะท้ายๆ น้อยลง 4 ราย ต่อผู้ที่รับประทานอาหารเสริม 1000 ราย)

• ลูทีนที่มีหรือไม่มีซีแซนทีนอาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการลุกลามของ AMD ไปเป็นระยะหลัง แต่อาจใช้ทดแทนเบต้าแคโรทีนในสูตร AREDS ได้อย่างเหมาะสม เบต้าแคโรทีนอาจเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่

• ผลของวิตามินอีเพียงอย่างเดียวต่อการลุกลามของ AMD ไปเป็นระยะท้ายและการสูญเสียการมองเห็นยังไม่ชัดเจน

แม้ว่าโดยทั่วไปวิตามินเสริมจะถือว่าปลอดภัย แต่การศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้ไม่ได้ให้หลักฐานที่ดีเกี่ยวกับความปลอดภัย เนื่องจากการศึกษาส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและรายงานผลที่เป็นอันตรายอย่างไม่สอดคล้องกัน

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

ความเชื่อมั่นของเราต่อหลักฐานมีตั้งแต่ปานกลางถึงต่ำมาก เนื่องจากการศึกษาที่รวบรวมมาส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก และไม่ครอบคลุมการเปรียบเทียบและผลลัพธ์ทั้งหมดที่เราสนใจ

การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน
การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมก่อนหน้าของเรา หลักฐานเป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางแสดงให้เห็นว่าการเสริมวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุ (AREDS: วิตามินซี อี เบต้าแคโรทีน และสังกะสี) อาจชะลอการลุกลามของ AMD ไปเป็นระยะหลังได้ ผู้ที่เป็นโรค AMD ระดับปานกลางมีโอกาสสูงที่จะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลุกลามสูงกว่าผู้ที่เป็นโรค AMD ในระยะแรก แม้ว่าหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำจะชี้ให้เห็นถึงผลเพียงเล็กน้อยเมื่อใช้ลูทีน/ซีแซนทีนเพียงอย่างเดียวเมื่อเทียบกับยาหลอก แต่การวิเคราะห์กลุ่มย่อยเชิงสำรวจจากการศึกษาขนาดใหญ่ในอเมริกาแห่งหนึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่าลูทีน/ซีแซนทีนอาจเป็นสิ่งทดแทนที่เหมาะสมสำหรับเบต้าแคโรทีนที่ใช้ในสูตร AREDS ดั้งเดิม

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

จอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (Age-related macular degeneration; AMD) คือภาวะความเสื่อมของจอประสาทตาที่เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี สารต้านอนุมูลอิสระอาจป้องกันความเสียหายของเซลล์ในเรตินาโดยทำปฏิกิริยากับอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในกระบวนการดูดซับแสง อาหารที่มีวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุในปริมาณที่สูงขึ้นอาจลดความเสี่ยงของการลุกลามของ AMD นี่คือการปรับปรุงการทบทวนวรรวรรณกรรมครั้งที่ 3

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของการเสริมด้วยวิตามินต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุต่อการลุกลามของ AMD ในผู้ที่เป็นโรค AMD

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นใน CENTRAL, MEDLINE, Embase, ฐานข้อมูลอื่น 1 ฐานข้อมูล และทะเบียนการทดลอง 3 แหล่ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวบรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (randomised controlled trials; RCTs) ที่เปรียบเทียบการเสริมวิตามินต้านอนุมูลอิสระหรือแร่ธาตุเสริมกับยาหลอกหรือไม่มีการแทรกแซงในผู้ที่เป็นโรค AMD

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้ระเบียบวิธีการวิจัยตามมาตรฐานของ Cochrane

ผลการวิจัย: 

เรารวบรวมการศึกษา 26 ฉบับ ที่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และออสเตรเลีย การศึกษาเหล่านี้ ศึกษาในคนจำนวน 11,952 คนที่มีอายุระหว่าง 65 ถึง 75 ปี และมีผู้หญิงมากกว่าเล็กน้อย (โดยเฉลี่ยเป็นผู้หญิง 56%) เราตัดสินว่าการศึกษาที่สนับสนุนข้อมูลในการทบทวนมีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำหรือไม่ชัดเจน

การศึกษา 13 ฉบับ เปรียบเทียบวิตามินรวมกับกลุ่มควบคุมในผู้ที่เป็นโรค AMD ระยะเริ่มต้นและระยะกลาง หลักฐานส่วนใหญ่มาจากการศึกษาโรคตาที่เกี่ยวข้องกับอายุ (Age-Related Eye Disease Study; AREDS) ในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่รับประทานวิตามินต้านอนุมูลอิสระมีโอกาสน้อยที่จะเป็นโรค AMD ในช่วงปลาย (odds ratio (OR) 0.72, 95% CI) 0.58 ถึง 0.90; การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2445 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ในผู้ที่เป็นโรค AMD ในระยะเริ่มแรก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการลุกลามต่ำ หมายความว่าจะมีการลุกลามของ AMD ไปเป็นช่วงปลายน้อยลงประมาณ 4 เคส ต่อทุกๆ 1000 คนที่รับประทานวิตามิน (น้อยกว่า 1 ถึงน้อยกว่า 6 เคส) ในผู้ที่เป็นโรค AMD ระดับกลางที่มีความเสี่ยงสูงต่อการลุกลาม สอดคล้องกับอัตราการลุกลามน้อยลงประมาณ 78 เคสต่อทุกๆ 1000 คนที่รับประทานวิตามิน (น้อยลง 26 ถึง น้อยลง 126 ) AREDS ยังให้หลักฐานของความเสี่ยงที่ลดลงของการลุกลามของทั้ง neovascular AMD (OR 0.62, 95% CI 0.47 ถึง 0.82; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) และ geographic atrophy (OR 0.75, 95% CI 0.51 ถึง 1.10; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) และความเสี่ยงลดลงในการสูญเสียการมองเห็น 3 แถวขึ้นไป (OR 0.77, 95% CI 0.62 ถึง 0.96; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำจากการศึกษา 1 ฉบับ ศึกษาในคน 110 คน แนะนำว่าคะแนนคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น (วัดด้วย Visual Function Questionnaire) ในการรักษาเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาหลังจาก 24 เดือน (ค่าเฉลี่ยความแตกต่าง (MD) 12.30, 95% CI 4.24 ถึง 20.36) ในการวิเคราะห์กลุ่มย่อยเชิงสำรวจในการศึกษาติดตามผลของ AREDS (AREDS2) การแทนที่เบต้าแคโรทีนด้วยลูทีน/ซีแซนทีน มีค่า hazard ratios (HR) 0.82 (95% CI 0.69 ถึง 0.96), 0.78 (95% CI 0.64 ถึง 0.94), 0.94 (95% CI 0.70 ถึง 1.26) และ 0.88 (95% CI 0.75 ถึง 1.03) สำหรับการลุกลามของ AMD ช่วงปลาย, neovascular AMD, geographic atrophy และการสูญเสียการมองเห็น ตามลำดับ

การศึกษา 6 ฉบับ เปรียบเทียบลูทีน (โดยมีหรือไม่มีซีแซนทีน) กับยาหลอก และการศึกษา 1 ฉบับเปรียบเทียบวิตามินรวมซึ่งรวมถึงลูทีน/ซีแซนทีนกับวิตามินรวมเพียงอย่างเดียว ระยะเวลาของการเสริมและการติดตามผลอยู่ระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี หลักฐานส่วนใหญ่มาจากการศึกษาของ AREDS2 ในสหรัฐอเมริกา ผู้เข้าร่วมเกือบทั้งหมดใน AREDS2 ยังใช้สูตรเสริม AREDS ดั้งเดิมอีกด้วย คนที่รับประทานลูทีน/ซีแซนทีนอาจมีความเสี่ยงต่อการลุกลามของ AMD ไประดับปลายใกล้เคียงกันหรือลดลงเล็กน้อย (RR 0.94, 95% CI 0.87 ถึง 1.01), neovascular AMD (RR 0.92, 95% CI 0.84 ถึง 1.02) และ geographic atrophy (RR 0.92, 95% CI 0.80 ถึง 1.05) เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 4176 คน, 6891 ตา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ความเสี่ยงที่คล้ายกันของการลุกลามของการสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่ 15 ตัวอักษรขึ้นไปพบในกลุ่มลูทีน/ซีแซนทีนและกลุ่มควบคุม (RR 0.98, 95% CI 0.91 ถึง 1.05; 6656 ตา; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) คุณภาพชีวิต (Visual Function Questionnaire) มีความคล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่ม (MD 1.21, 95% CI -2.59 ถึง 5.01; การศึกษา 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 308 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

การศึกษา 1 ฉบับ ในออสเตรเลียสุ่มคน 1204 คนเพื่อรับวิตามินอีหรือยาหลอกโดยมีการติดตามผล 4 ปี ผู้เข้าร่วม 19% มี AMD จำนวนเหตุการณ์ AMD ช่วงปลายต่ำ (N = 7) และการประมาณการผลกระทบไม่แน่นอน (RR 1.36, 95% CI 0.31 ถึง 6.05; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีหลักฐานของผลการรักษาต่อการสูญเสียการมองเห็น (RR 1.04, 95% CI 0.74 ถึง 1.47; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ neovascular AMD geographic atrophy หรือคุณภาพชีวิต

การศึกษา 5 ฉบับเปรียบเทียบสังกะสีกับยาหลอก หลักฐานส่วนใหญ่มาจากการศึกษาที่ใหญ่ที่สุด (AREDS) พบว่าการลุกลามของ AMD ไปเป็นช่วงปลายลดลงในช่วง 6 ปี (OR 0.83, 95% CI 0.70 ถึง 0.98; การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 3790 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง), neovascular AMD (OR 0.76, 95 % CI 0.62 ถึง 0.93; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง), geographic atrophy (OR 0.84, 95% CI 0.64 ถึง 1.10; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) หรือการสูญเสียการมองเห็น (OR 0.87, 95% CI 0.75 ถึง 1.00; การศึกษา 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 3791 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต อาการทางระบบทางเดินอาหารเป็นผลข้างเคียงหลักที่มีรายงาน ใน AREDS สังกะสีมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ชาย แต่ไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มสังกะสีขนาดสูงและต่ำใน AREDS2

การศึกษาส่วนใหญ่มีขนาดเล็กเกินไปที่จะตรวจพบผลข้างเคียงที่พบได้ยาก ข้อมูลจากการศึกษาขนาดใหญ่ (AREDS/AREDS2) ชี้แนะว่าอาจมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเสียชีวิตด้วยวิตามินรวม (HR 0.87, 95% CI 0.60 ถึง 1.25; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) หรือการเสริมลูทีน/ซีแซนทีน (HR 1.06, 95% CI 0.87 ถึง 1.31; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) แต่ยืนยันความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งปอดด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งส่วนพบในผู้เคยสูบบุหรี่

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 29 ตุลาคม 2024

Tools
Information