การรักษาด้วยรังสีเอกซ์ (รังสีรักษา) หลังการตัดชิ้นเนื้อเต้านมออก (การตัดเต้านมออก) ดีกว่าการไม่ทำรังสีรักษาในผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1 ถึง 3 ต่อมหรือไม่

ใจความสำคัญ

• การฉายรังสีรักษาหลังการตัดเต้านมออก (หรือที่เรียกว่าการตัดเต้านมออก) อาจลดมะเร็งที่กลับมาที่ผนังทรวงอกและในต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง

• รังสีรักษาอาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมและกระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้อง 1 ถึง 3 ต่อม

• เราพบการศึกษาระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่ 1 ฉบับ ซึ่งควรให้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อเสร็จสิ้น

มะเร็งเต้านมคืออะไร

มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในสตรีทั่วโลก การปรับปรุงการรักษา (ยาต้านมะเร็ง) ที่มีเป้าหมายทั่วร่างกายในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งน้อยลง การกลับเป็นซ้ำของผนังทรวงอกและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงหลังจากการรักษามะเร็งเต้านมระยะแรกสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายของมะเร็งได้ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งซ้ำที่ผนังทรวงอกและต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงนั้นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1 ถึง 3 ต่อมเมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีโรคกระจายไปต่อมน้ำเหลือง

อะไรคือบทบาทของการรักษาแบบประคับประคองเพิ่มเติมในการจัดการมะเร็งเต้านม

รังสีรักษาเป็นการรักษาแบบกำหนดเป้าหมายเชิงสนับสนุนที่ได้รับการยอมรับอย่างดี ซึ่งช่วยลดการกลับเป็นซ้ำเฉพาะที่หลังการผ่าตัดในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม นักวิจัยในช่วง 2 ถึง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาไม่สามารถแสดงได้อย่างไม่ต้องสงสัยว่าการลดลงของการเกิดซ้ำที่ศูนย์กลางไปยังตำแหน่งที่ให้รังสีรักษานำไปสู่การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมน้อยลง

ควรใช้รังสีรักษาเมื่อใด

นักวิจัยเห็นด้วยกับการใช้รังสีรักษาหลังการผ่าตัดเต้านมในผู้หญิงที่มีลักษณะของมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ขนาดเนื้องอกขนาดใหญ่ (ใหญ่กว่า 5 ซม.) และต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 4 ต่อมขึ้นไปที่ได้รับผลกระทบจากมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับบทบาทของรังสีรักษาหลังการผ่าตัดเต้านมในผู้หญิงที่มีลักษณะเสี่ยงต่ำ ซึ่งพบว่ามีการกระจายของมะเร็งไปต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1 ถึง 3 ต่อม

ผู้เขียนรีวิวต้องการทราบอะไร

สำหรับผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมและพบว่ามีต่อมน้ำเหลือง 1 ถึง 3 ต่อมที่เป็นมะเร็ง เราถาม:

• การฉายรังสีรักษาหลังการตัดเต้านมช่วยลดการเกิดซ้ำเฉพาะที่เมื่อเทียบกับการไม่ทำรังสีรักษาหรือไม่

• มีข้อได้เปรียบในการรอดชีวิตในสตรีที่ได้รับ PMRT เมื่อเทียบกับสตรีที่ไม่ได้รับรังสีรักษาหรือไม่

• ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ในระยะสั้นและระยะยาวของ PMRT คืออะไร

• มีความแตกต่างในคุณภาพชีวิตของผู้หญิงที่ได้รับรังสีรักษาเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับรังสีรักษาหรือไม่

เราทำอะไร

เราค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบการรักษาด้วยรังสีหลังการตัดเต้านมออกกับการไม่รักษาด้วยรังสีในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1 ถึง 3 ต่อม เมื่อเราระบุการศึกษาที่เกี่ยวข้องแล้ว เราจะเปรียบเทียบและสรุปผล เราได้ประเมินและจัดอันดับความเชื่อมั่นของเราในหลักฐานที่นำเสนอโดยพิจารณาจากวิธีการศึกษาและจำนวนผู้หญิงที่เข้าร่วมในการศึกษา

เราพบอะไร

เราพบการศึกษา 3 ฉบับกับผู้หญิง 725 คน; ผู้หญิง 355 คนได้รับการฉายแสง และ 370 คนไม่ได้รับรังสีรักษา การศึกษาที่ใหญ่ที่สุดดำเนินการในเดนมาร์กและมีผู้หญิง 552 คนเข้าร่วม การศึกษาที่เหลืออีก 2 ฉบับดำเนินการในสวีเดนและเกี่ยวข้องกับสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน 104 คน และสตรีวัยหมดประจำเดือน 173 คน มีเพียงการศึกษาของเดนมาร์กเท่านั้นที่ให้รังสีรักษาโดยใช้วิธีการที่เทียบได้กับการปฏิบัติในปัจจุบัน การศึกษาทั้งหมดติดตามผู้หญิงเป็นเวลา 15 ปีขึ้นไป การศึกษาได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรการกุศลอิสระ โดยไม่ได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทเอกชนหรือบริษัทยา

ผลลัพธ์หลัก

การใช้รังสีรักษาเทียบกับการไม่ใช้รังสีรักษาในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมซึ่งมีต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ 1 ถึง 3 ต่อม:

• อาจนำไปสู่การลดการเกิดมะเร็งซ้ำในบริเวณใกล้เคียง และ

• อาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ถึง 24% ในผู้หญิง

เราไม่พบการศึกษาใด ๆ ที่ประเมินผลของการรักษาด้วยรังสีหลังการผ่าตัดมะเร็งเต้านมอย่างน่าเชื่อถือต่อการรอดชีวิตโดยปราศจากโรค ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ในระยะสั้นหรือระยะยาว และคุณภาพชีวิตของผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านม

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

ความเชื่อมั่นในหลักฐานของเราอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลางด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ

ประการแรก การศึกษาที่เรารวบรวมไว้เกิดขึ้นก่อนความก้าวหน้าสมัยใหม่มากมายในการรักษามะเร็งเต้านม ประการที่สอง เราสามารถตีความผลลัพธ์จากการศึกษาหนึ่งที่ใช้เทคนิคการรักษาด้วยรังสีที่ทันสมัยเท่านั้น สุดท้าย การศึกษาที่เราใช้ไม่ได้ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เราต้องการเกี่ยวกับประสิทธิผลการรักษาในระยะยาวของผู้เข้าร่วม

หลักฐานเป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานที่แสดงนี้เป็นปัจจุบันถึงเดือนกันยายน 2021

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

จากการศึกษา 1 ฉบับ การใช้ PMRT ในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองรักแร้ปริมาณน้อย บ่งชี้ว่าการเกิดซ้ำเฉพาะที่ลดลงและอัตราการรอดชีวิตดีขึ้น จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมโดยใช้อุปกรณ์และวิธีการรักษาด้วยรังสีสมัยใหม่เพื่อสนับสนุนและเสริมผลการทบทวนนี้

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการรักษาเพิ่มเติมส่งผลให้มีการพยากรณ์โรคที่ดีขึ้นสำหรับผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม ตัวบ่งชี้ตัวแทนที่ใช้ในการตรวจหาการแพร่กระจายของโรคหลังการรักษามะเร็งเต้านมคือการกลับเป็นซ้ำบริเวณรอยโรคเดิมและบริเวณข้างเคียง ความเสี่ยงของการเกิดซ้ำบริเวณรอยโรคเดิมและบริเวณข้างเคียงหลังการตัดเต้านมออกจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนของต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ที่มะเร็งกระจายไป มีความเห็นเป็นเอกฉันต์ที่จะใช้รังสีรักษาเป็นการรักษาแบบเสริมหลังการตัดเต้านมออก (การรักษาด้วยรังสีรักษาหลังการผ่าตัดเต้านม (PMRT)) ในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมและพบว่ามีโรคกระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ตั้งแต่สี่ต่อมขึ้นไปขึ้นไป แม้ว่าข้อมูลจะแสดงถึงความเสี่ยงเกือบ 2 เท่าของการเกิดซ้ำบริเวณรอยโรคเดิมและบริเวณข้างเคียงในสตรีที่ได้รับการผ่าตัดตัดเต้านมออกและพบว่ามีการกระจายไปต่อมน้ำเหลือง 1 ถึง 3 ต่อมแต่ก็ยังขาดความเห็นพ้องระหว่างประเทศเกี่ยวกับการใช้ PMRT ในกลุ่มนี้

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของ PMRT ในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะแรกและพบว่ามีต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้เป็นบวก 1 ถึง 3 ต่อม

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นข้อมูลทะเบียนเฉพาะของ Cochrane Breast Cancer Group, CENTRAL, MEDLINE, Embase, the World Health Organization (WHO) International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) และ ClinicalTrials.gov จนถึง 24 กันยายน 2021

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) เกณฑ์การคัดเข้ารวมสตรีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่รักษาด้วยการผ่าตัดเต้านมและรักแร้แบบธรรมดาหรือแบบดัดแปลง (Sentinel Lymph node Biopsy (SLNB) เพียงอย่างเดียว หรือผู้ที่ได้รับการกวาดล้างต่อมน้ำเหลืองรักแร้โดยมีหรือไม่มี SLNB ก่อนหน้า) เรารวบรวมเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับ PMRT โดยใช้รังสีเอกซ์ (รังสีอิเล็กตรอนและโฟตอน) และเราได้กำหนดปริมาณรังสีรักษาเพื่อสะท้อนถึงสิ่งที่กำลังแนะนำในปัจจุบัน (เช่น 40 Grey (Gy) ถึง 50 Gy ใน 15 ถึง 25/28 ใน 3 ถึง 5 สัปดาห์ การศึกษาที่รวบรวมไว้ไม่ได้ให้ยาเพิ่มที่ฐานของเนื้องอก (tumour bed) ในการทบทวนนี้ เราไม่รวมการศึกษาที่ใช้ neoadjuvant chemotherapy เป็นการรักษาแบบประคับประคองก่อนการผ่าตัด

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้ Covidence เพื่อคัดเลือกการศึกษา เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของเนื้องอก การรักษาแบบเสริม และผลลัพธ์ของการกลับเป็นซ้ำบริเวณรอยโรคเดิมและบริเวณข้างเคียง การรอดชีวิตโดยรวม การอยู่รอดโดยปราศจากโรค ระยะเวลาที่จะลุกลาม เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในระยะสั้นและระยะยาว และคุณภาพชีวิต เรารายงานเกี่ยวกับมาตรการผลลัพธ์ตามเวลาต่อเหตุการณ์โดยใช้อัตราส่วนความเป็นอันตราย (HR) และ HR ย่อย เราใช้เครื่องมือความเสี่ยงของอคติ (RoB 1) ของ Cochrane และเรานำเสนอหลักฐานที่แน่นอนโดยรวมโดยใช้แนวทาง GRADE

ผลการวิจัย: 

RCTs ที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้เป็นการวิเคราะห์กลุ่มย่อยของ RCTs ดั้งเดิมที่ดำเนินการในทศวรรษที่ 1980 เพื่อประเมินประสิทธิผลของ PMRT ดังนั้น ประเภทและระยะเวลาของการรักษาเสริมที่ใช้ในการศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้จึงไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับมาตรฐานการดูแลในปัจจุบัน

การทบทวนนี้เกี่ยวข้องกับ RCTs สามเรื่องกับผู้หญิงทั้งหมด 829 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองรักแร้ปริมาณน้อย ในการศึกษาที่รวบรวมไว้ มีเพียงการศึกษาเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการรักษาด้วยรังสีรักษาในยุคปัจจุบัน ผลจากการศึกษา 1 ฉบับ นี้แสดงให้เห็นการลดลงของการเกิดซ้ำบริเวณรอยโรคเดิมและบริเวณข้างเคียง (HR 0.20, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.13 ถึง 0.33, การศึกษา 1 ฉบับ, สตรี 522 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) และการปรับปรุงการรอดชีวิตโดยรวมด้วย PMRT (HR 0.76 , 95% CI 0.60 ถึง 0.97, การศึกษา 1 ฉบับ, สตรี 522 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) 1 ในการศึกษาอื่นๆ ที่ใช้เทคนิคการรักษาด้วยรังสีที่ไม่สะท้อนถึงการปฏิบัติในยุคปัจจุบันที่รายงานเกี่ยวกับการรอดชีวิตโดยปราศจากโรคในสตรีที่โรคกระจายไปต่อมน้ำเหลืองรักแร้ในปริมาณน้อย (การแบ่งย่อย HR 0.63, 95% CI 0.41 ถึง 0.96, การศึกษา 1 ฉบับ, สตรี 173 คน) ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงของ PMRT หรือมาตรการผลลัพธ์ด้านคุณภาพชีวิต

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พญ ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 9 มกราคม 2024

Tools
Information